หูตึง
หนึ่งในปัญหาที่ผู้สูงอายุไม่อยากเจอมากที่สุด คือ อาการหูตึง แม้จะไม่ใช่อาการที่อันตรายเท่ากับโรคอื่น ๆ แต่ก็สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ทั้งปัญหาเรื่องการสื่อสารและการสูญเสียความมั่นใจจนอาจนำไปสู่ภาวะเครียดและซึมเศร้าได้
หูตึงคืออะไร
หูตึง คือ ภาวะที่เราได้ยินลดลง หรือได้ยินแต่ฟังแล้วไม่เข้าใจ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง โดยกลุ่มเสี่ยงที่พบภาวะหูตึง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีประวัติการฟังเสียงดัง
สาเหตุของหูตึง
โดยส่วนใหญ่ภาวะหูตึงเกิดจากการเสื่อมของประสาทหู การฟังเสียงดังต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยา
อาการของหูตึง
คนที่หูตึงมักจะสื่อสารกับผู้อื่นได้ยากขึ้น ต้องถามซ้ำ ๆ หันหน้าไปหาคนพูดเพื่อฟังใกล้ ๆ เปิดโทรทัศน์หรือวิทยุเสียงดังขึ้น
วิธีลดความเสี่ยงอาการหูตึง
หากไม่อยากหูตึงก่อนเวลาอันควร มีข้อปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอาการหูตึง ดังนี้
-หลีกเลี่ยงการฟังเสียงดังหรือการใส่หูฟัง หากจำเป็นต้องอยู่ในที่ที่มีเสียงดังควรใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียง
-ระวังไม่ให้เกิดการติดเชื้อในหู หากมีการติดเชื้อควรรีบรักษา
-หลีกเลี่ยงการกระแทกบริเวณหูหรือศีรษะ
-ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาทุกชนิด เนื่องจากยาบางชนิดทำให้เกิดการได้ยินผิดปกติได้
-คุมโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ให้ดี เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
การรักษาหูตึง
ปัจจุบันอาการหูตึงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อชะลอการเสื่อมของเส้นประสาทหูได้
หูตึงเป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากเราดูแลสุขภาพดีก็สามารถชะลอและลดความเสี่ยงการเกิดหูตึงก่อนเวลาอันควรได้
อ.พญ.เนาวรัตน์ ตั้งบำรุงธรรม
ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล