"ชวน" แนะรัฐบาลยึดหลักซื่อสัตย์สุจริต หลักนิติธรรม เชื่อหากทำได้นโยบายจะสำเร็จ ไม่ซ้ำรอยวิกฤตไฟใต้เหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาวันที่สอง นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ได้เคยอภิปรายนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ วันนั้นเป็นการพูดในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนวันนี้พูดในฐานะรัฐบาล แต่ไม่ว่าตนจะอยู่พรรคไหนก็ตามความจริงก็คือความจริง ความจริงไม่อาจเปลี่ยนไปตามฐานะ ดังนั้น ข้อมูลที่จะพูดถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขอย้ำว่าตอนนั้นตนต้องการให้รัฐบาลบรรจุปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ติดขัดที่ขณะนั้นนโยบาย 14 หน้าของรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้เลย แต่ขณะนี้รัฐบาลบรรจุไว้แล้ว แม้จะเป็น 1 บรรทัด แต่เท่ากับยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนถือหลักว่าชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน เราจะผิดพลาดนโยบายเศรษฐกิจขาดทุนเท่าไหร่ก็ไม่เท่าชีวิตคนว่า 7,500 คนที่เสียไปจากความผิดพลาดนโยบายด้านความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายว่าต้องการเห็นความสามัคคีปรองดอง เรื่องนี้ไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ
นายชวน กล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ นึกถึงประโยชน์ประเทศ และจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เรามีข้าราชการแต่ละกระทรวงพวกเขาไต่เต้าทำงานมาตามลำดับ เราต้องให้เกียรติข้าราชการ ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตในการแต่งตั้งต้องไม่เอาตำแหน่งมาเป็นราคา ดังนั้น นักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลให้โอกาสคนเหล่านั้นมาตามความสามารถไม่ใช่ด้วยราคา ส่วนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน วันนี้เหมือนระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา จึงอยากขอให้ครม. แปลความข้อนี้ให้ชัดเจนว่าการบริหารประเทศไม่ใช่เพื่อประโยชน์ พรรคการเมือง แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนสุดท้ายคือการยึดหลักนิติธรรมซึ่งเป็นหัวใจของการปกครอง ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ถ้ายึดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้น ปัญหาจะเกิดขึ้น แต่บังเอิญช่วงหนึ่งเราใช้ฝ่ายบริหารเป็นศาลจึงเป็นที่มาของทุกวันนี้ หากรัฐบาลยึดแนวทางข้างต้น คือ ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ประเทศประชาชน และยึดหลักนิติธรรม สิ่งนี้จะทำให้นโยบายต่างๆประสบความสำเร็จ