แถลงการณ์ มสธ. พร้อมสรรหาอธิการบดีคนใหม่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ออกแถลงการณ์ ตามที่ศาลปกครองสูงสุดในคดีถอดถอนอธิการบดีพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 โดยสรุปว่าการถอดถอนอธิการบดีรายเดิมชอบด้วยกฎหมายแล้ว เนื่องจากสภามหาวิทยาลัยมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของมหาวิทยาลัย และมีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งและถอดถอนอธิการบดี ตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521 และเมื่อการถอดถอนอธิการบดีชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนถอดถอนอธิการบดีตามกฏหมาย ในมาตรา 20 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติฯ มหาวิทยาลัย จึงดำเนินการเพื่อเสนอขอโปรดเกล้าฯ ถอดถอนอธิการบดีตามกฏหมาย และขั้นตอนต่อกระทรวงอุดมศึกษาฯ ปัจจุบันแจ้งว่าอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนกรณีที่สภามหาวิทยาลัย มีมติเพิกถอนมติเดิม และยกเลิกรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 เนื่องจากมีข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป และต่อมามีผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ที่ให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยที่เลือกผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับการเสนอแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดี และขอให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัย ที่ยกเลิกประกาศสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เรื่อง รายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอธิการบดีในคดีนี้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา
โดยสรุปว่า การที่สภามหาวิทยาลัยการประชุมครั้งที่ 2/2567 (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 มีมติทบทวนมติของสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.60 และมีมติให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยเดิมครั้งดังกล่าวที่เลือกผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับการเสนอแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดี และมีมติให้ยกเลิกประกาศสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เรื่อง รายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอธิการบดี ลงวันที่ 30 มี.ค.60 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.67 ที่มีมติเพิกถอน ไม่น่าจะปรากฏเหตุว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฏหมายในการดำเนินการของสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชแต่อย่างใด กรณีนี้จึงถือได้ว่าคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอทุเลาการบังคับ ไม่ครบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในอันที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติสภามหาวิทยาลัย ศาลจึงมีคำคำสั่งไม่รับคำขอทุเลาดังกล่าว
ทั้งนี้คำสั่งศาลไม่รับคำขอทุเลาการบังคับตามกฎ หรือคำสั่งทางปกครองไว้พิจารณาให้เป็นที่สุด คู่กรณีไม่อาจอุทธรณ์ คำสั่งดังกล่าวได้ ดังนั้นมติในการเพิกถอนรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอธิการบดีจึงมีผลบังคับตามมติสภามหาวิทยาลัย
ดังนั้นเมื่อตำแหน่งอธิการบดีว่างลงภายหลังจากได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถอดถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มหาวิทยาลัยจะเริ่มกระบวนการสรรหาที่การดีตามกฏหมายและขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้มหาวิทยาลัยขอเรียนว่าข้อบังคับฯ ที่เกี่ยวข้องที่ใช้ในการสรรหาอธิการบดีรายใหม่ได้ปรับปรุงให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาที่ประกาศใช้โดยกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากมีความคืบหน้าประการใด มหาวิทยาลัยจะรายงานให้ทราบต่อไป