พนมเปญ, 2 ก.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (1 ก.ย.) อังกอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์ รายงานว่าอุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือหมู่ปราสาทนครวัดอันโด่งดังของกัมพูชา ทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม) ของปีนี้ รวมอยู่ที่ 30.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.03 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 จาก 23.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 789 ล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อุทยานฯ ต้อนรับผู้เข้าชมชาวต่างชาติ 651,857 คน ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 จากตัวเลขในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 498,513 คน โดยแหล่งนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และจีน
รายงานระบุว่าเฉพาะในเดือนสิงหาคมปีนี้ อุทยานฯ ต้อนรับผู้เข้าชมชาวต่างชาติ 67,482 คน สร้างรายได้ 3.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 107 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 และร้อยละ 13.7 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
อนึ่ง อุทยานฯ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตร เป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของกัมพูชาและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี 1992 ประกอบด้วยปราสาทโบราณ 91 แห่ง ซึ่งถูกก่อสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-13
ทบ โสเพียก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและโฆษกกระทรวงฯ เผยว่าท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) ที่จีนลงทุน ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีส่วนดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมายังนครวัดมากขึ้น
โสเพียกเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่าปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกัมพูชา-จีน 2024 ยังช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนกัมพูชาและนครวัดมากขึ้นด้วย