"ศุภมาส" มอบหมาย สวทช. เปิดตัวฟีเจอร์ "ช่วยน้ำท่วม" บนแพลตฟอร์ม ทราฟฟี ฟองดูว์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างทันท่วงที
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แสดงความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพิ่มเมนูพิเศษ "ช่วยน้ำท่วม" บนแพลตฟอร์ม ทราฟฟี ฟองดูว์ เพื่อเป็นช่องทางด่วนพิเศษในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในจังหวัดสุโขทัยที่มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 5,000 ครัวเรือน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ด้วยเหตุนี้ จึงได้มอบหมายให้ สวทช. พัฒนาฟีเจอร์พิเศษบนแพลตฟอร์ม ทราฟฟี ฟองดูว์ เพื่อเป็นช่องทางด่วนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งฟีเจอร์ "ช่วยน้ำท่วม" ประกอบด้วย 3 ฟังก์ชันหลัก 1. แจ้งสถานการณ์: ผู้ใช้สามารถรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมแนบรูปภาพและพิกัด 2. ขอความช่วยเหลือ: ส่งคำร้องขอความช่วยเหลือโดยตรงไปยัง อว. ส่วนหน้าใน 76 จังหวัด 3. บริจาค: ประสานงานกับ อว. ส่วนหน้าเพื่อรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประชาชนสามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มเพื่อน @TraffyFondue บน LINE หรือสแกน QR Code ที่ให้ไว้ จากนั้นเลือกเมนู "ช่วยน้ำท่วม" เพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ
น.ส.ศุภมาส กล่าวด้วยว่า ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนให้เพิ่มเพื่อน @TraffyFondue บน LINE และใช้งานแพลตฟอร์ม ทราฟฟี ฟองดูว์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้ช่วย ผอ.สวทช. ผู้รับผิดชอบหน่วยบริการนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับเมือง เปิดเผยว่า "ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เราได้พัฒนาฟีเจอร์ "ช่วยน้ำท่วม" บน ทราฟฟี ฟองดูว์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ด้วยระบบนี้ เราหวังว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด" ดร.วสันต์ กล่าวเสริม "เพียงแค่ผู้ใช้ระบุพิกัดและความต้องการที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทันที
สำหรับหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระบบนี้จะช่วยให้การประสานงานและการจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถติดตามสถานการณ์และคำร้องขอความช่วยเหลือได้แบบเรียลไทม์