"แพทองธาร’"กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมสุโขทัย

2024-08-30 18:06:18

"แพทองธาร’"กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมสุโขทัย

Advertisement

"แพทองธาร’"พร้อมคณะ พท. ลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.สุโขทัย เล็งยกเครื่องแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบระยะยาว ป้องกันการเสียงบประมาณแผ่นดินมาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกปี

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 เวลา 10:30 น.  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รมว.สาธารณสุข นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รมว.คมนาคม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ที่ วัดคลองกระจง  จ.สุโขทัย โดยมี ส.ส.สุโขทัยทั้ง 4 เขตให้การต้อนรับ รวมถึง ส.ส.ในพื้นที่ใกล้เคียง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

โดยวัดคลองกระจงถือเป็นจุดแรกของการลงพื้นที่ในครั้งนี้ และได้มีประชาชนรอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก เมื่อแพทองธารเดินทางมาถึง ได้เข้าไปสักการะหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อพึ่ง หลวงพ่อสัมฤทธิ์ จากนั้นได้กล่าวทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินไปโรงครัวให้กำลังใจอาสาสมัครที่มาทำอาหาร ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้ร่วมตักอาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่มอบกระเป๋าเครื่องจักรสานจากกาบกล้วยให้ น.ส.แพทองธารด้วย

จากนั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะเดินทางไปติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำของแม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) อำเภอสวรรคโลก โดยนายสมศักดิ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม-น่าน รวมถึงแผนเผชิญเหตุและการช่วยเหลือประชาชนให้รับทราบ

จากนั้น  น.ส.แพทองธารได้เดินทักทายประชาชนในพื้นที่ และอุดหนุนสินค้าพ่อค้าแม่ค้า ทั้งนี้ ชาวบ้านที่มารอต้อนรับได้ขอเข้าไปถ่ายรูปและจับมือ บางคนถึงกับบอกว่า "น้ำท่วมไม่กลัว กลัวไม่ได้เห็นนายกฯ คนสวย กลับบ้านไป ก็ไปซักผ้าเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย" รวมทั้งมีลุงคนหนึ่งเดินมาหาแพทองธาร พร้อมกับบอกว่า "ปั่นจักรยานมาเป็น 10 กิโล เพื่อที่จะมาเจอนายกฯ ได้อธิษฐานไว้แล้วว่า ลูกสาวของนายทักษิณ จะต้องได้เป็นนายกฯ" ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้นต่างส่งเสียงยินดี และทำให้แพทองธาร แซวกลับว่า "เป็นหมอดูหรือเปล่าคะ"

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางต่อไปประตูระบายน้ำคลองหกบาท อำเภอสวรรคโลก เพื่อติดตามสถานการณ์การระบายน้ำจากแม่น้ำยมไปยังแม่น้ำน่าน ก่อนเดินทางไปเยี่ยมประชาชนในตำบลวังทอง และตำบลวังใหญ่ เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อบต.วังทอง รวมถึงให้กำลังใจ อปพร. ซึ่งประชาชนในพื้นที่ได้ มอบกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมที่เป็นของดีในพื้นที่ให้แก่ น.ส.แพทองธาร

โดยนายสมศักดิ์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กล่าวกับชาวบ้านว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่สุโขทัย และบอกว่าอยากมาลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ด้วยตอนนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตนจึงขอเป็นตัวแทนก่อน ทั้งนี้ สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่อยากได้คือกำแพงริมตลิ่ง เพราะหากกำแพงริมตลิ่งดี น้ำก็จะไม่ทะลักออกมา ช่วยบรรเทาความเสียหายได้

น.ส.แพทองธารเดินทางต่อมายังกองอำนวยการหมู่ที่ 8  ต.วังทอง  อ.ศรีสำโรง และกล่าวกับประชาชนว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในวันนี้ และได้รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาต่างๆ หน่วยงานรับฟังไว้หมดแล้ว จึงอยากขอให้ทุกคนมีกำลังใจมากๆ ทานข้าวให้มากๆ จะได้มีแรงเพื่อร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน หากมีโอกาสก็อยากกลับมาเจออีก

ในช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์น้ำท่วมในสุโขทัยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในภาคเหนือก็เริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ ต่อไปก็ต้องมาดูเรื่องของการเยียวยาอย่างไรให้ครอบคลุมทั่วถึงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องให้มากที่สุด

สื่อมวลชนถามว่ามั่นใจอย่างไรว่ากรุงเทพน้ำจะไม่ท่วมนั้น  น.ส.แพทองธารกล่าวว่าหากเปรียบเทียบสถานการณ์ปี 54 ซึ่งมีพายุพัดเข้ามา 5 ลูก แต่ปีนี้คาดว่าน่าจะมี 2 ลูกหรืออาจจะไม่มี รวมถึงเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ก็ยังสามารถรับน้ำได้ เชื่อว่าถ้าไม่มีพายุพัดเข้ามาเติมกรุงเทพก็น่าจะปลอดภัย

"การดูแลพี่น้องประชาชนเป็นความรับผิดชอบ แต่เมื่อได้แถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะต้องมาดูมาตรการบริหารจัดการน้ำและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเราเห็นว่าพี่น้องประชาชนเมื่อประสบอุทกภัยแล้วเขาลำบากจริงๆ ทางกรมชลประทานก็ได้รายงานว่า มีทั้งปัญหาเขื่อนแตกฝายแตก เราจึงคิดว่าในอนาคตต้องมาคุยกันจริงจังเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวกันสักที ไม่ใช่มาคอยเสียงบประมาณกันเพื่อมาแก้ปัญหาระยะส้้นๆ แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกปี ตรงนี้คือสิ่งที่ตั้งใจจะทำ" นายกรัฐมนตรี กล่าว