คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอผู้ร่วมมือ งานสงกรานต์ทุกพื้นที่ เล่นน้ำ แต่งกายเหมาะสม ยังดูแลความปลอดภัยสาธารณะตามสถานที่จัดงาน ระบุพบการกระทำผิดมาตรการปลอดภัยเพิ่มขึ้น และยึดรถแล้ว 1,475 คัน
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พ.อ.พิเศษหญิง ศิริจันทร์ งาทอง โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยถึงกรณี การจัดกิจกรรมสงกรานต์ในแต่ละพื้นที่ว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ 12 เม.ย. 61 หลายพื้นที่เริ่มกิจกรรมงานบุญและเล่นน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำ คึกคักโดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานเนืองแน่น โดยเฉพาะ กิจกรรมบนถนนสายวัฒนธรรมของเมืองใหญ่ เช่น ถนนข้าวสาร,สวนลุมพินี ,รางน้ำ กทม. ,ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น, ถนนสเน่หานุสรณ์ หาดใหญ่ รวมทั้งสถานที่จัดงานของชุมชน และบริเวณแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งบรรยากาศโดยรวมยังคงเรียบร้อย เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ตามประเพณีและสอดคล้องกับกระแสวิถีการแต่งกายชุดไทย โดยการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในสถานที่ต่างๆจะยังมีต่อเนื่องอีกหลายวัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงอำนวยความสะดวก พร้อมเข้มงวดในมาตรการปลอดภัยสาธารณะให้ประชาชนที่เข้ามาร่วมงานได้มีความสุข ด้วยการจัดชุดสายตรวจ เพิ่มเติมตลอดการจัดงาน และขอความร่วมมือส่วนงานต่างๆบริเวณโดยรอบงานตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเตรียมไฟฟ้าส่องสว่างให้ทั่วถึง เพื่อดูแลความเรียบร้อย โดยยังคงขอความร่วมมือผู้ร่วมงานในการแต่งกาย การดื่มสุรา และการเล่นสาดน้ำอย่างเหมาะสม
และในขณะเดียวกันคงเข้มมาตรการสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุในการสัญจรให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เสี่ยง ทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้ใช้เส้นทางส่วนใหญ่ระมัดระวังและปฏิบัติตนตามกฎจราจร แต่ยังพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการลดอุบัติเหตุอยู่
โดยในวันที่ 12 เม.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและ ผู้ฝ่าฝืน”มาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จำนวน 56,051ราย แยกเป็นในส่วน รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 32,592 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 835 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 2,449 ราย และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 22,728 คน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 23,459 ครั้ง ยึดใบขับขี่ 1,741 คน ยึดรถยนต์ 494 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 1,741 ราย และส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 13,102 คน
โดยสรุป 2 วัน (11 – 12 เม.ย. 2561 ) เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท จำนวน 59,390 ราย ส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 38,546 ราย ยึดใบอนุญาตขับขี่ 4,628 ราย และ ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้ 1,475 คัน ( รถจักรยานยนต์ 940 คัน, รถยนต์ 535 คัน ) ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดสถานที่เก็บรักษารถที่ยึดไว้เป็นอย่างดี โดยเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้หลังเทศกาล