"ณัฐชา" ชี้มาตรการแก้ปัญหา "ปลาหมอคางดำ" ผิดที่ผิดทาง สถานการณ์ไม่ได้เบาบางลง คาดฟ้องเอกชน หน่วยงานรัฐ 5 ก.ย.
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหารวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กล่าวถึงการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่าแม้ขณะนึ้จะมีกระแสที่ลดลงไป แต่สถานการณ์ยังไม่ได้เบาบางลง ประกอบกับการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ตรงและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งทำให้ปัญหาไม่ลดน้อยลงเลย วันนี้คณะอนุ กมธ.จึงได้เชิญอธิบดีกรมประมงมาให้ข้อมูล แต่อธิบดี ไม่ได้มาเข้าร่วม ส่งเพียงเอกสารที่มีการเผยแพร่ตามสื่ออยู่แล้ว คือ 7 มาตรการ ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งการลงไป คือมาตรการต่างๆ ที่ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่รับซื้อเพียงส่วนเดียว แต่จำนวนอีก 400 ล้านบาท เป็นงบประมาณของการฟื้นฟู การทำความเข้าใจ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ที่ไม่ตอบโจทย์ และไม่ตรงความต้องการ ยกตัวอย่าง มาตรการการรับซื้อซึ่งอยู่ในมาตรการที่หนึ่ง มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทนั้น มีการรับซื้อ 5,000,000 กิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีมาตรการรับซื้อจำนวน 2,000,000 กิโลกรัม รวมกันแล้วเกือบ 7,000,000 กิโลกรัม แต่สถานการณ์ในพื้นที่ทั้ง 19 จังหวัด ยังคงไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร และ 7,000,000 กิโลกรัมนี้ อาจจะมีคนที่ขายได้เพียงบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น
นายณัฐชา ระบุว่า ขณะนี้มีประกาศของกรมประมงที่เพิ่มเติมมา ใน 19 จังหวัดมีเกษตรกรเดือดร้อนกว่า 50,000 รายที่ลงทะเบียนแล้ว แต่มาตรการที่หน่วยงานภาครัฐทำทั้งหมดล้วนสวนทางกับความต้องการ และผิดที่ผิดทางเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง การประกาศรับซื้อ ที่มีงบประมาณ 50 ล้านบาท แต่เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ก็กลับประกาศว่า งบประมาณถูกใช้เกือบหมดแล้ว แต่ความจริงการซื้อขายของชาวบ้านแทบจะยังไม่ได้จับออกพื้นที่เลย ส่วนมาตรการจับปลาหมอข้างดำออกจากแหล่งน้ำ ธรรมชาติ และซื้อปลาผู้ล่าไปปล่อยอย่างต่อเนื่อง ก็คือการซื้อปลาอื่นไปปล่อยอีก 50 ล้านบาท และการนำไปใช้ประโยชน์อื่น เช่น ปุ๋ยหรือปลาป่น ก็มีเอกชนดำเนินการอยู่แล้ว จึงอยากจะถามว่า ได้มีการนับรวมส่วนนี้เข้าไปด้วยหรือไม่
นายณัฐชา เปิดเผยความคืบหน้าในการฟ้องร้องว่า ขณะนี้มีการดำเนินการเตรียมคำฟ้องทั้งเอกชน และหน่วยงานรัฐ ทั้งสองหน่วยงาน ซึ่งทางสภาทนายความเอง ก็ได้มีบอกต่อที่ประชุมว่า มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วทั้งหมด 300 คน และยังจะมีเพิ่มเติมอีก ซึ่งจะมีการฟ้องในวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่ในรายละเอียด ขอให้ดำเนินการเรียบร้อยก่อน แล้วจึงแจ้งอีกครั้ง