อยากทำงานนาซา เรียนเองก็ได้ รู้ยัง

2018-04-12 12:45:02

อยากทำงานนาซา เรียนเองก็ได้ รู้ยัง

Advertisement

โรงเรียนอเมริกันเสนอคอร์สเรียนปูทางสู่บริษัทแอปเปิล, นาซาและลิงค์อินแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งหากเก่งพออาจได้งานที่มีค่าจ้างสูงถึงหนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐฯ


ภาพ THOMAS SAMSON / AFP



เควิน ยูกและเบคกี เฉิน สองวัยรุ่นอายุราว 20 ปีที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักวิศวกรซอฟต์แวร์ต่างก้มหน้าก้มตาเพ่งไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งเต็มไปด้วยรหัสแบบที่คนปกติคงไม่มีทางเข้าใจ โดยทั้งสองเป็นนักเรียนของโรงเรียนโฮลเบอร์ตัน เมืองซานฟรานซิสโกที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักวิศวกรซอฟต์แวร์ชาวฝรั่งเศสเมื่อสองปีก่อน แต่โรงเรียนนี้มีวิธีการเรียนและการประเมินที่ไม่เหมือนโรงเรียนอื่น

เป้าหมายของโรงเรียนคือการผลักให้นักเรียนมีทักษะถึงระดับที่สามารถได้งานในบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงในซิลิคอนวัลเลย์ ส่วนวิธีการเรียนก็จะต้องผ่านข้อสอบเข้าแบบนิรนามแต่ไม่ต้องเสียค่าเทอมเลยสักบาท และเมื่อนักเรียนหางานทำได้แล้ว โรงเรียนจะจ่ายเงินร้อยละ 17 ของเงินเดือนนั้นเป็นเวลาสามปีด้วย



คอร์สนานสองปีเปิดรับมือใหม่ที่อยากเป็นนักวิศกรซอฟต์แวร์ ซึ่งผู้ก่อตั้งโรงเรียนอ้างว่าเป็นหนทางสู่บริษัทขนาดยักษ์อย่างแอปเปิล, ลิงค์อินและนาซา ซึ่งบางครั้งนักเรียนก็เก่งมากจนจบออกไปก่อนจบคอร์สเสียด้วยซ้ำ โดยนักเรียนโรงเรียนนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองแต่จะมีคนจากเฟซบุ๊ก กูเกิลและไมโครซอฟต์กว่า 150 คนค่อยแวะเวียนมาให้คำแนะนำ ซึ่งมาจากการได้รับเงินสนับสนุน 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 400 ล้านบาท) จากกลุ่มนักลงทุน

ซิลแวง กาลาช หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียนวัย 29 ปีเอ่ยถึงเรื่องความหลากหลายในวงการอุตสาหกรรมเทคนี้ด้วย โดยเขากล่าวว่า “คนส่วนมากในอุตสาหกรรมเทคดูเหมือนผม: ขาวและเป็นผู้ชาย” แต่ที่โรงเรียนฮอลเบอร์ตันมีนักเรียนอายุตั้งแต่ 18 ถึง 56 ปีและร้อยละ 35 จากนักเรียนทั้งหมด 200 คนก็เป็นผู้หญิงด้วย

นักเรียนส่วนมากมีเป้าหมายจะได้รับเงินเดือนจากอาชีพที่เพียงแค่การฝึกงานก็อาจสูงถึง 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.1 ล้านบาท) หรือบางครั้งก็อาจได้ค่าจ้าง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 ล้านบาท) ตั้งแต่งานแรกเลยด้วย ทำให้มีผู้สนใจจากหลากหลายอาชีพทั้งบาร์เทนเดอร์, ศิลปินและแคชเชียร์ โดยลี เกนส์ ครูโยคะวัย 30 ปีบอกว่า “ผมพยายามหางานที่มีความมั่นคงทางการเงินมากกว่านี้เพราะหวังไว้ว่าจะมีบ้านและตั้งครอบครัว และเงินที่ได้จากการเป็นครูโยคะนั้นไม่เพียงพอ”