สบยช. ประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ "บวร" พร้อมใจสร้างสังคมไทยปลอดยาเสพติด

2024-08-21 11:39:29

สบยช. ประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ  "บวร" พร้อมใจสร้างสังคมไทยปลอดยาเสพติด

Advertisement

สบยช. จัดประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ในหัวข้อ "บวร" พร้อมใจ สร้างสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด 


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กรมการแพทย์โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) และ รพ.ธัญญารักษ์ภูมิภาค จัดการประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ปี 2567 "บวร"  พร้อมใจ สร้างสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด  BOWON (Ban, Wat, School) Community Collaboration: Building Together a Thai Society Safe from Drugs ระหว่างวันที่ 20 - 22 ส.ค.67 ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี  จ.นนทบุรี เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานด้านวิชาการ ทักษะ และเทคนิคในการปฏิบัติงาน ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นภัยร้ายแรงที่ก่อให้เกิดปัญหาและผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของประเทศชาติ รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วย ให้โอกาสได้เข้าถึงการบำบัดรักษาให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พร้อมทั้งมีกลไกเชิงสังคมด้วยการใช้ชุมชนเป็นฐานในการบูรณาการงานยาเสพติดอย่างเป็นระบบ ด้วยการสนับสนุนให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจจากคนในชุมชนในการดูแลกันเอง หากทุกคนในสังคมร่วมใจในการสร้างสังคม โดยมีบุคลากรทางสุขภาพเป็นที่ปรึกษา นับเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างให้ชุมชนเข้มแข็ง สามารถดูแลกันเองได้ตามบริบทของพื้นที่ ภายใต้การบริหารจัดการแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด รวมถึงการบำบัดรักษา ผู้ปฏิบัติงานจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจ โดยคำนึงถึงผู้ติดยาเสพติดและประชาชนทุกคน โดยถือว่า การติดยาเสพติดเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งคือ “โรคสมองติดยา” ซึ่งส่งผลให้ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้เสพเปลี่ยนไป แต่โรคนี้เมื่อเป็นแล้วก็สามารถรักษาได้ แม้จะไม่สามารถหยุดเสพได้ แต่สามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกัน ทั้งนี้หากทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมมือกันดำเนินงานอย่างจริงจัง ติดตามผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้สังคมไทยปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด


นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา  ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวว่า สบยช. และ รพ.ธัญญารักษ์ภูมิภาค ทั้ง 6 แห่ง ได้ร่วมมือจัดการประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี และครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 ในหัวข้อ  "บวร" พร้อมใจ สร้างสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด BOWON (Ban, Wat, School) Community Collaboration: Building Together a Thai Society Safe from Drugs ระหว่างวันที่ 20 - 22 ส.ค.67 ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี  จ.นนทบุรี ซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดจากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม มากกว่าจำนวน 1,900 คน เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานด้านวิชาการ ทักษะ และเทคนิคในการปฏิบัติงาน ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้รับเกียรติจาก ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมทั้ง มอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลทรงคุณค่าในด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด (Most Valuable Person: MVP in Drugs Abuse Treatment) Thanyarak Mentor Award 2024 มอบประกาศเกียรติคุณผู้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำคู่มือการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาและสารเสพติดรูปแบบมินิธัญญารักษ์ มอบรางวัลธัญญารักษ์อวอร์ด มอบประกาศนียบัตรสถานพยาบาลยาเสพติดที่ผ่านการรับรองคุณภาพ และปาฐกถาพิเศษ  "บวร" พร้อมใจ สร้างสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด” ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปาฐกถาพิเศษ “เจตนารมณ์แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 สู่โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” นอกจากนี้ยังมีการเสวนาที่น่าสนใจจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงการแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ป่วยยาเสพติต ภายใต้ชื่อ @Than นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ที่สามารถส่งมอบองค์ความรู้ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภพผู้เสพผู้ติดยาเสพติด เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ นวัตกรรมที่หลากหลายจากนักวิชาการ ซึ่งองค์ความรู้เหล่านี้จะส่งผลให้ผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ได้รับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพที่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพทัดเทียมนานาอารยประเทศ ก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือทางวิชาการ และสร้างสรรค์ผลงานวิชาการที่มีคุณภาพสืบไป