พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยศาลฟัน "เศรษฐา" พ้นนายกฯ

2024-08-14 17:35:39

พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยศาลฟัน "เศรษฐา" พ้นนายกฯ

Advertisement

"พริษฐ์" แถลงพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยศาล รธน.ฟัน "เศรษฐา" พ้นนายกฯ ระบุเรื่องจริยธรรมควรเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง ประชาชนผู้ตัดสิน ไม่ใช่ให้ศาล องค์กรอิสระผูกขาดตีความ 

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ว่า พรรคประชาชนขอแสดงความกังวลและความไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ในวันนี้ ที่นายเศรษฐา  ถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยศาลรัฐธรรมนูญ แม้พรรคประชาชนยืนยันว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรมีจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต แต่จริยธรรมเป็นเรื่องที่ต่างคนต่างตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้น ตราบใดที่การกระทำนั้นไม่ได้เป็นการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งตามที่มีบทลงโทษตามกฎหมายครอบคลุมไว้ชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องของจริยธรรมจึงควรเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองที่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยที่รัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระผูกขาดการตีความมาตรฐานจริยธรรมตามดุลพินิจของตนเอง จนเสี่ยงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังเช่นกรณีของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาในวันนี้

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า  พรรคประชาชนมีความเชื่อว่าเหตุการณ์ในวันนี้ จะทำให้สังคมทุกฝ่ายเห็นชัดขึ้นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ รวมถึงการกำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมเป็นเรื่องของความรับผิดชอบทางการเมือง โดย ส.ส.พรรคประชาชน จะเดินหน้าทำงานต่อในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีคำวินิจฉัยในวันนี้ เทียบกับคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7  ส.ค.ซึ่งนายพริษฐ์ ระบุว่า เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์แม้จะเป็นคนละกรณี แต่ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามมากขึ้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะทำอย่างไรให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมีอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสม ให้มีกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระที่มีความยึดโยงกับประชาชน รวมถึงการมีกติกาในการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งต้องอาศัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป โดยหวังว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมาจากการร่างโดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน