"เศรษฐา" ยอมรับกังวลศาล รธน.ชี้ชะตา ต้องปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ส.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปทำบุญที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ให้กับนางชดช้อย ทวีสิน มารดา ก่อนเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณี 40 อดีต ส.ว. ส่งคำร้องขอให้ศาลชี้ขาด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5 ) กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือไม่
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อคืนนี้นอนหลับสบายดีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สบาย ต่อข้อถามว่า ทำบุญมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เช้าวันเดียวกันนี้ ได้เดินทางไปวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งเป็นวัดที่ทำพิธีฌาปนกิจศพของคุณแม่ ซึ่งท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือมาตลอด ก็ไปกราบขอบพระคุณท่าน
เมื่อถามต่อว่า สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ได้ให้กำลังใจอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ท่านชวนคุยเรื่องฟุตบอลเฉย ๆ
ต่อข้อถามว่า จนถึงวันนี้ นายกฯ ไม่ได้กังวลอะไรใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กังวลทุกเรื่อง กังวลตลอดเวลา แต่มันไม่ได้อยู่ในมือผมแล้ว ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอย่างที่ผมเรียน
เมื่อถามอีกว่านายกฯ จะเดินหน้าทำงานต่อไปตามปกติใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทำงานตามปกติ มีงาน โดยเวลา 11.30 น. จะไปตรวจเยี่ยมตลาดใต้สะพานเพลินจิต เพราะอยากทำที่ใต้ทางด่วน ซึ่งมีพื้นที่เหลือเยอะมาก ก็ได้เชิญผู้การการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคม มาพูดคุยว่าใต้ทางด่วนยังมีพื้นที่ที่เราสามารถจัดเป็นพื้นที่สันทนาการให้กับประชาชนได้ หรือนำมาหารายได้ให้กับประชาชนที่ต้องการมาเปิดร้านค้าในราคาค่าเช่าที่เหมาะสม ให้เป็นการเสริมอาชีพเสริมรายได้ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าการการทางพิเศษฯ ได้เริ่มพูดคุยกันและเชิญตนไปดู ตนมั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ดี จะได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการอีกในหลายๆ พื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย นายกฯ จะมีโอกาสได้มาพูดคุยกับสื่อมวลชนอีกครั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้ครับ ยินดี แต่ไม่ใช่เป็นการแถลงข่าว เป็นการให้สัมภาษณ์ธรรมดา