“ค็อกเทลเฝอ” ผลงานรังสรรค์บาร์เทนเดอร์เวียดนาม

2018-04-10 17:05:56

“ค็อกเทลเฝอ” ผลงานรังสรรค์บาร์เทนเดอร์เวียดนาม

Advertisement

“ฟาม เทียน เทียป” บาร์เทนเดอร์สุดฮิปชาวเวียดนาม รังสรรค์สิ่งที่เรียกว่า “ค็อกเทลเฝอ” โดยการนำก๋วยเตี๋ยวเนื้อประจำชาติของเวียดนามมาผสมผสานกับเครื่องดื่มจนเกิดค็อกเทลรสชาติใหม่ ด้วยความหวังที่จะยกระดับประสบการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในเวียดนาม ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มเบียร์เฮย




ในค็อกเทลเฝอ เทียปได้กันส่วนประกอบที่เป็นเนื้อสัตว์ของเฝอออกไปจากค็อกเทล เหลือเพียงการใช้กลิ่นของเฝอที่ได้จากอบเชย โป๊ยกั๊ก กระวาน และผักชี ซึ่งนำมาผสมกับเหล้ายิน



เบียร์เฮย เบียร์ราคาถูกที่ดื่มง่ายตามร้านอาหารเปิดโล่งในเวียดนาม เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งนี้ ชาวเวียดนามนิยมดื่มเบียร์มากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น สถิติจากเครือข่ายธุรกิจยุโรป-เวียดนามชี้ว่า นักดื่มชาวเวียดนามบริโภคเบียร์ 3.4 พันล้านลิตรในปี 2558 เทียบกับการดื่มไวน์และสุราอื่นๆซึ่งนับเป็นปริมาณ 70 ล้านลิตร





บาร์เทนเดอร์เจ้าของค็อกเทลเฝอกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ผมจะโฆษณาเครื่องดื่มใหม่นี้ และจะแย่งตลาดเบียร์เฮยและเหล้าขาวที่คนเวียดนามนิยม แต่ผมปรุงเครื่องดื่มใหม่นี้ให้เป็นเครื่องดื่มในอีกระดับ มันเป็นเครื่องดื่มที่หรูหราและประณีต”

เทียปพัฒนาค็อกเทลเมื่อหกปีที่แล้วในขณะที่กำลังทำงานให้กับโรงแรมของฝรั่งเศส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาที่เขาทำงานในร้านขายเฝอเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น ในวัยเด็ก เทียปเติบโตมาในครอบครัวยากจนที่ไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้อเฝอกินสักชาม ชีวิตของเขาอยู่กับอาหารริมทางมาตั้งแต่เล็กจนโต ในวันนี้ บาร์เทนเดอร์มือรางวัลคนนี้ สามารถจิบค็อกเทลราคา 7 ดอลลาร์สหรัฐที่บาร์ของเขาเอง



ค็อกเทลของเทียปได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า นักธุรกิจชาวเวียดนาม เคียน ฟาน กล่าวว่า การนำเอาอาหารริมทางมาประยุกต์เข้ากับค็อกเทลเป็นวิธีที่จะทำให้อาหารริมทางของเวียดนามเป็นที่รู้จักในแบบใหม่



ด้วยความสำเร็จของเทียป ทำให้เมนูค็อกเทลเฝอถูกเลียนแบบและกระจายไปทั่วเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโฮ จิ มินห์ ซิตี้ และไม่ได้มีเพียงแต่ค็อกเทลเฝอเท่านั้น ในปัจจุบันยังมีพิซซ่าเฝอ เบอร์ริโต้เฝอ หรือแม้กระทั่งไอศกรีมเฝอที่เกิดขึ้นแล้วในเมนูตามร้านอาหารต่างๆ



“เราเชื่อว่า เราสามารถโปรโมทอาหารเวียดนามไปทั่วโลกผ่านค็อกเทล” บาร์เทนเดอร์กล่าว



ภาพ James Duong / AFP