ศึกษาชี้ "ราคาอาหารพุ่งสูง" กระทบสุขภาพเด็กในนิวซีแลนด์

2024-08-09 11:10:17

ศึกษาชี้ "ราคาอาหารพุ่งสูง" กระทบสุขภาพเด็กในนิวซีแลนด์

Advertisement

เวลลิงตัน, 8 ส.ค. (ซินหัว) — วันพฤหัสบดี (8 ส.ค.) การศึกษาของนิวซีแลนด์ที่เผยแพร่ในวารสารรอยัล โซไซตี ออฟ นิวซีแลนด์ (Royal Society of New Zealand) ระบุว่าวิกฤตค่าครองชีพพุ่งสูงในนิวซีแลนด์ ซึ่งส่งผลให้ราคาของกินของใช้เพิ่มขึ้นในอัตราสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับครอบครัวในการเลี้ยงดูลูกให้มีสุขภาพดี

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโอ๊คแลนด์ และมหาวิทยาลัยแมสซีย์ กล่าวว่าราคาอาหารเพื่อสุขภาพที่มีราคาประหยัดสำหรับครัวเรือนที่มีผู้ใหญ่ 2 คน และเด็ก 2 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ระหว่างปี 2018-2023

สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเติบโตในช่วงเวลาดังกล่าว ความต้องการอาหารเพิ่มเติมและราคาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำหรับของกินของใช้เพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 จาก 10,420 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 221,000 บาท) เป็น 16,083 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 341,000 บาท)

โจแอนนา สตรอม ผู้นำนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ กล่าวว่าสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปไม่ได้ส่งเฉพาะต่อสุขภาพกายเท่านั้น ยังรวมถึงสุขภาพใจด้วย โดยเด็กในนิวซีแลนด์กว่าหนึ่งในสามมีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์และโรคอ้วน และมีเด็กอายุ 2-14 ปีเพียงร้อยละ 5.4 ที่รับประทานผักตามจำนวนที่แนะนำในแต่ละวัน

การศึกษาระบุว่าสถิติเหล่านี้ย่ำแย่กว่าในกลุ่มเด็กชาวเมารี เด็กในแปซิฟิก เด็กพิการ และเด็กในครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ นำไปสู่ปัญหาความไม่เท่าเทียมอันยืดเยื้อ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นโรคเรื้อรัง

ขณะเดียวกัน การศึกษาเผยว่ากลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพราคาประหยัดเหล่านี้มีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปีในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าดัชนีราคาอาหารโดยรวม และถือเป็นสิ่งที่น่ากังวล

สตรอมกล่าวว่าการวิจัยดังกล่าวจะเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับนโยบายที่มุ่งเป้าไปยังระบบอาหารทั้งหมด ซึ่งรวมถึงนโยบายจูงใจกลุ่มเกษตรกรและผู้ปลูกเพื่อจัดจำหน่ายอาหารในท้องถิ่น และวิธีการแก้ปัญหาในท้องถิ่น เช่น อาหารฟรีในโรงเรียน

ด้านเอเลน รัช ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโอ๊คแลนด์ กล่าวว่านิวซีแลนด์มีอัตราความยากจนและทุพโภชนาการในเด็กที่สูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการและประสิทธิผลด้านสุขภาพของประเทศในอนาคต