"วิสุทธิ์" ชี้คุณสมบัติรองประธานสภาฯต้องเป็นกลาง

2024-08-08 11:24:06

"วิสุทธิ์" ชี้คุณสมบัติรองประธานสภาฯต้องเป็นกลาง

Advertisement

"วิสุทธิ์" มั่นใจได้รองประธานสภาฯคนใหม่  14 ส.ค. ขอเจรจาในพรรคร่วมก่อน ชี้คุณสมบัติเป็นกลาง คุมประชุมได้ ยังไม่ฟันธง "ภราดร" นั่งเก้าอี้

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.67  ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)  ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ว่า ขอให้กำลังใจพรรคก้าวไกลที่ต้องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายตามกติกา คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเราก็ต้องยอมรับเป็นเรื่องปกติธรรมดาการเมือง เราผ่านเรื่องนี้มามากแล้ว ตอนนี้ก็ให้กำลังใจให้เข้มแข็งทางการเมืองก็มีเข้า - ออก รุ่นก่อนๆ ของพรรคไทยรักไทยก็เพิ่งได้กลับมา ถึงไม่เห็นด้วยแต่เราก็ต้องยอมรับ ส่วนการทำงานคงไม่มีอะไรมาก เพราะมี ส.ส.ที่หลุดออกไปประมาณ 2-3 คน และในสภาสัดส่วนก็ไม่ได้มีแตกต่างกันมาก ยังพอทำงานเป็นปกติได้ไม่มีอะไรน่ากังวล หรือน่าเป็นห่วง

เมื่อถามว่า ในส่วนตำแหน่งต่างๆ ที่จะได้รับผลกระทบทั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และกรรมาธิการนั้น ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ก็ต้องดูสัดส่วนของแต่ละพรรค แนวทางการปฏิบัติของสภาก็มีอยู่แล้วว่าต้องปฏิบัติอย่างไรให้ครบถ้วน ให้พอเหมาะพอดีตามที่ตกลงกันไว้

"ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1ที่ว่างลง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ส.ค. วันนี้ยังไม่กล้าตอว่าพรรคไหนจะได้มาเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แต่ชัดที่สุดคือวันที่ 14 ส.ค.นี้ ได้เลือกแน่นอน มีรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขึ้นมาทำหน้าที่แน่นอน เพราะจะมีการเลือกในสัปดาห์หน้า จึงอยากให้อดใจรอ การเจรจาก็เป็นการพูดคุยของผู้นำของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ซึ่งโดยมารยาทต้องปรึกษาหารือกันทุกพรรค"นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้คงไม่ใช่โควต้าอย่างเดียว ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างทางการเมือง รวมถึงสัดส่วนของ ส.ส.ที่อยู่ในสภา และยืนยันว่าต้องเป็นคนของฝ่ายรัฐบาล 100เปอร์เซนต์ เพราะครั้งก่อนที่เลือกไปแบบนั้น ด้วยสถานการณ์ที่เหมือนพรรคก้าวไกลจะมาร่วมรัฐบาล แต่เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็เป็นสัดส่วนของรัฐบาลที่จะต้องเจรจากันในหลายพรรค

เมื่อถามว่า จะเป็นสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เพราะในตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ขอให้ได้พูดคุยกันก่อน ตอนนี้เป็นไปได้ทั้งหมดและเชื่อว่าไม่มีปัญหาที่พรรคร่วมรัฐบาล จะเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1ต้องเป็นกลางทางการเมืองและแม่นข้อบังคับ ทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภาฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง ส.ส.หลายคนจากหลายพรรค มีคุณสมบัติพร้อมหลายคน และก็อยู่สภามานาน คนที่ขึ้นมาทำหน้าที่ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาเท่านั้น

เมื่อถามย้ำถึง กรณีที่มีรายชื่อของนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เข้ามาชิงตำแหน่งรองประธานสภฯ คนที่ 1 นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็เหมาะสม เพราะประชุมสภามาหลายสมัย คุณพ่อ (นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล) ของนายภราดรก็เคยนั่งตำแหน่งนี้ แต่ตอนนี้ตนยังไม่กล้าฟันธงว่าเป็นใคร

เมื่อถึงข้อครหาที่ตำแหน่งประธานและรองประธาน มาจากฝั่งรัฐบาลทั้งหมดจะไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้นั้น นายวิสุทธ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯ มีหน้าที่ควบคุมการประชุมสภา ให้เป็นไปตามข้อบังคับและความเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ไปวินิจฉัยเรื่องอื่น นอกจากเรื่องข้อบังคับ ตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องตรวจสอบถ่วงดุลอะไร เพราะฉะนั้นการตรวจสอบก็เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคน

เมื่อถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ตำแหน่ง ประธานและรองประธานทั้ง 2 คนจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ สัดส่วนไม่เหมือนตอนนี้ เพราะตอนนั้นพรรคเพื่อไทย มี ส.ส.มาก

นายวิสุทธิ์ กล่าวถึง การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พิษณุโลก เขต1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง ว่า เรื่องนี้ต้องให้กรรมการบริหารพรรคไปพิจารณา เพราะครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 3 และที่ 2 เป็นพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปกติโดยมารยาท ในพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็จะให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดก่อน ซึ่งก็ต้องให้พรรคพลังประชารัฐก่อน แต่ก็ต้องอยู่ที่ผู้บริหารพรรคทั้ง 2 พรรคต้องเจรจากัน