"หมออ๋อง" พร้อมรักษามารยาททางการเมืองหากศาล รธน. สั่งยุบ "ก้าวไกล" ถูกตัดสิทธิ
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลว่า ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ก็อยากเห็นสภาเข้มเเข็ง และไม่อยากเห็นสภานิติบัญญัติถูกแทรกแซงจากองค์กรอื่น หากผลออกมาเป็นคุณก็จะยินดีมาก ไม่ใช่เพียงกับพรรคก้าวไกลอย่างเดียว แต่รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรด้วย ที่จะสามารถดำเนินการกันต่อไปได้ และมองว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะเป็นบรรทัดฐานว่าตกลงแล้ว สิทธิหรืออำนาจของผู้แทนราษฎรในการเสนอกฎหมายนั้น จะมีใครมายับยั้งหรือบั่นทอนอำนาจนี้ได้หรือไม่
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเนื้อหาคำวินิจฉัยนั้นสำคัญมาก ว่าการอธิบายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือสิทธิของสภาผู้แทนราษฎร นั้น เป็นสิ่งที่ตนรอฟังอยู่ ว่าคำตัดสินนั้นจะเป็นคุณหรือโทษ ทั้งนี้ เนื้อหาในคำอธิบายสำคัญมากกว่า
เมื่อถามว่าการอ่านคำวินิจฉัยศาลนั้น ตรงกับช่วงเวลาที่ นายปดิพัทธ์ ในฐานะรองประธานสภา นั่งเป็นประธานในช่วงเวลา 15.00 น. นั้นหากผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นลบนั้นจะทำอย่างไร นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นกับการทำงาน และหากคำตัดสินออกมาไม่เป็นคุณ และมีการตัดสิทธิจริง ตนก็ต้องรักษามารยาท ในการยุติปฏิบัติหน้าที่บนบัลลังก์ แต่หน้าที่ของนักการเมืองของตนยังคงอยู่
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า บรรยากาศเย็นวันนี้ เท่าที่คุยกับเพื่อนๆ ก้าวไกลที่มายื่นหนังสือวันนี้ก็ไม่มีอะไร แต่จากที่ตนได้มีการพูดคุยกับ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านถูกตัดสิทธิ ก็กังวลว่าสภานั้นก็จะอ่อนแอลงไปด้วย แต่ภาพรวมเย็นนี้ก็เชื่อว่า ที่พรรคก้าวไกลมีปาร์ตี้แน่นอน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม เพราะส่วนตัวคิดว่าคนที่ตัดสิทธิทางการเมืองของพรรคการเมืองได้ มีเพียงแค่ประชาชนเท่านั้น