"นายกฯ-แพทองธาร" คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ในพื้นที่ กทม. 26 ส.ค.

2024-08-04 12:34:39

"นายกฯ-แพทองธาร"  คิกออฟ  30 บาทรักษาทุกที่ในพื้นที่ กทม. 26 ส.ค.

Advertisement

"สมศักดิ์" เผย 26 ส.ค. "นายกฯ-แพทองธาร"  คิกออฟ  30 บาทรักษาทุกที่ในพื้นที่ กทม. 

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ว่า ในวันจันทร์ ที่ 26 ส.ค.67 จะมีการ Kick Off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่  กทม.  30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า โดยจะเป็นจังหวัดนำร่องที่ 46 ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ หลังได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดความพร้อมที่จะให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯได้ ซึ่งจะมีการ Kick Off ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. โดยได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมจะมีการเปิดตัวตราสัญลักษณ์ (Logo) “30 บาทรักษาทุกที่” เพื่อใช้ในการรับรองคุณภาพและการเข้าร่วมโครงการฯ ของหน่วยบริการทั่วประเทศ รวมถึงการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในการเข้ารับบริการของประชาชน

"การ Kick Off จะเป็นการตอกย้ำการเดินหน้านโยบายนี้ของรัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรี นอกจากจะมอบป้ายและโล่ตราสัญลักษณ์ 30 บาทให้ผู้แทน 7 หน่วยนวัตกรรมบริการแล้ว ยังจะปาฐกถาพิเศษ “30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า” ขณะที่ นางสาวแพทองธาร จะกล่าวปาฐกถา “จาก 30 บาทรักษาทุกโรค สู่ 30 บาทรักษาทุกที่” เพื่อให้เห็นการผลักดันโครงการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดนี้ เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของรัฐบาล ในการดูแลสุขภาพประชาชนไทย พร้อมเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ในการเข้าถึงสิทธิและบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท"  รมว.สาธารณสุข กล่าว

ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในส่วน สปสช. ที่ร่วมขับเคลื่อนนโยบายฯในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการภายใต้บทบาทและหน้าที่ของ สปสช. ทั้งการเพิ่มหน่วยบริการนวัตกรรม ให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ การจัดหาหน่วยบริการทุติยภูมิเพิ่มเติม เพื่อลดความแออัดหน่วยบริการตติยภูมิ ยกระดับ Contact Center 1330 เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนและหน่วยบริการ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนระบบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุก รวมถึงการจัดระบบสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้ารับบริการของประชาชน นอกจากการเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ ประจำตามสิทธิของท่านแล้ว ยังสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรม 7 แห่ง ประมาณ 1,500 แห่ง โดยสังเกตตราสัญลักษณ์ที่จะมีการเปิดตัว ได้แก่ ร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวก และลดความแออัดได้อีก ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 26 ส.ค. นี้ เช่น บริการการแพทย์ทางไกล เจาะเลือดที่บ้าน รถรับส่งผู้ป่วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ และตู้เทเลเมดดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของโรงพยาบาลรัฐสังกัดต่างๆนั้น จะเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อผู้ป่วย