โพลชี้ ปชช.หนุนย้าย "ท่าเรือคลองเตย" นำมาใช้ประโยชน์หลายด้านทั้งเป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้ด้อยโอกาส สวนสาธารณะ แหล่งท่องเที่ย พื้นที่เชิงพาณิชย์
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.67 นายสานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากกรณี การย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยในขณะนี้กระแสสังคมได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก จากก่อนหน้านี้ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการย้ายท่าเรือ พร้อมทั้งให้หาแนวทางในการพัฒนาริเวณท่าเรือคลองเตย ของ กทท.ทั้งหมดกว่า 2,353 ไร่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ในครั้งนี้นั้น เพื่อต้องแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ลดปัญหาความแออัดของชุมชน แก้ไขปัญหาจราจรติดขัด ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แบบครบวงจร ซึ่งรวมถึงการย้ายคลังและโรงเก็บน้ำมันที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย
นายสานิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางนอร์ทกรุงเทพโพล ได้ทำการสำรวจประชาชน จำนวน 2,500 ราย เมื่อวันที่ 22-30 ก.ค.67 ที่ผ่านมา โดยสอบถามว่า ท่านทราบโครงการ การย้ายท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) หรือไม่ พบว่า ประชาชนทราบ ร้อยละ 70.3 และไม่ทราบ ร้อยละ 29.7 พร้อมทั้งถามต่อว่า เห็นด้วยหรือไม่ กับการย้ายท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) พบว่า เห็นด้วย ร้อยละ 70.7 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 16.2 และไม่แสดงความคิดเห็น ร้อยละ 13.1
อีกทั้งยังสำรวจต่ออีกถึงการย้ายท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) จะทำให้เกิดประโยชน์ ที่ดินในพื้นที่เดิมอย่างไร ได้รับคำตอบว่า ใช้ผสมผสานการใช้ประโยชน์ในหลายๆด้าน ร้อยละ 40.2 ใช้เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้ด้อยโอกาส ร้อยละ 16.7 ใช้เป็นสวนสาธารณะ ร้อยละ 11.3 ใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ร้อยละ 10.2 ใช้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ร้อยละ 3.2 และ อื่นๆ ร้อยละ 18.4
ทั้งนี้ประชาชนผู้ให้การสำรวจทั้งหมดนั้น มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารกรณีแผนการย้ายท่าเรือกรุงเทพมาจาก อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ ร้อยละ 24 แผ่นพับ โปสเตอร์ เอกสารประชาสัมพันธ์ ร้อยละ 14.2 ทางวิทยุ โทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี ร้อยละ 12.4 ทางสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ วารสาร ร้อยละ 9.3 เอกสารเผยแพร่จากทางราชการ ร้อยละ 5.2 และอื่นๆ ร้อยละ 34.9