"ไผ่" ยัน พปชร.ไร้ความขัดแย้ง

2024-07-29 00:30:10

"ไผ่" ยัน พปชร.ไร้ความขัดแย้ง

Advertisement

"ไผ่" ยัน พปชร.ไร้ความขัดแย้ง ส.ส.ยังทำหน้าที่เต็มที่เพื่อประชาชน  ส่วนกรณีปล่อย "เพลงลุงป้อม" เป็นเพียงการจัดทำโดยบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค  

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง สส.ทุกคนของ  พปชร.ยังอยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค โดยมีการทำงานที่ไปในทิศทางเดียวกัน และพวกเราปฎิบัติหน้าที่ ส.ส.ด้วยความตั้งใจ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ โดยยึดโยงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน พปชร.ได้ผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็น บัตรสวัสดิการประชารัฐ ที่ทำมาตั้งแต่ปี 2562 หรือจะเป็นโครงการล่าสุดอย่าง การเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร  โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการที่พี่น้องประชาชนให้การตอบรับ และสอบถามถึงความก้าวหน้าที่ประชาชนจะได้รับ อย่างวันนี้ เดินไปตรงไหนก็มีแต่เสียงอยากให้โครงการไร่ละ 1,000 กลับมา โดยเบื้องต้นได้หารือถึงแนวทางดำเนินนโยบายดังกล่าว หากเกิดปัญหากับราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ก็จะผลักดันให้มีโครงการไร่ละ 1,000 ออกมาอีกแน่นอน

ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคได้ โพสต์เพลง ที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร ออกมาทั้ง 2 เพลง เหมือนต้องการเกาะกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่นั้น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นดำเนินการส่วนตัว ซึ่งบุคคลดังกล่าว ไม่ได้ร่วมอยู่ในฝ่ายบริหารของพรรค เป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น ดังนั้น การกระทำดังกล่าว ตนไม่ได้รับรู้ด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบก็ไม่น่าจะมีการถามและผ่านความคิดเห็นของคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย จึงไม่สามารถตอบได้ถึงจุดประสงค์ของทั้ง 2 เพลงนั้น  การเคลื่อนไหวของพรรค พปชร.ในทิศทางที่เป็นกิจกรรมทั้งทางการเมือง และการขับเคลื่อนนโยบายทั้งในส่วนฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ขอให้ฟังข้อมูลการสื่อสารจากทีมโฆษกของพรรคเท่านั้น เพราะการทำงานพรรคการเมืองมีลำดับ และขั้นตอนในการกลั่นกรอง หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรค ก็ควรที่จะผ่านความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรคก่อน คงไม่สามารถไปยึดโยงกับความคิดเห็นของคน ๆ เดียวได้ และผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็น่าจะมีแนวทางการทำงานเป็นเช่นนี้เหมือนกัน การทำงานกับคนหมู่มากสิ่งสำคัญคือ การเคารพซึ่งกันและกัน