"บิ๊กเกรียง" รายงานตัวลั่นเป็น ส.ว.สีน้ำเงิน เทิดทูนสถาบันด้วยชีวิต ปัดเอี่ยวพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 67 ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) อดีตผู้ช่วยผู้ช่วย ผบ.ทบ. อดีตแม่ทัพภาคที่4 และอดีตประธานที่ปรึกษา รมว. มหาดไทย(นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกภายหลังเข้าแสดงตัวเป็น ส.ว. ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่า ถือว่าบรรยากาศดีได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทางเจ้าหน้าที่รัฐสภา และสื่อมวลชน ส่วนกรณีที่มีการถูกวางเป็นตัวเต็งรับตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น มีมุมมองออกมาตามสื่อ แต่ตัวตนเองตั้งใจมาทำหน้าที่ดูแลแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เนื่องจากมีประสบการณ์ มีองค์ความรู้ในการดำเนินการมากกว่า
เมื่อถามว่า หากได้รับตำแหน่งประธาน หรือรองประธานวุฒิสภา จะพร้อมทำหน้าที่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไว้ให้ถึงเวลานั้น ตนว่าทุกคนพร้อมทั้งหมด ไม่ใช่พร้อมเฉพาะตน ส.ว.ทั้ง 200 คนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการที่จะถูกเลือกเป็นประธานวุฒิสภา เพราะทุกคนมีประสบการณ์ มีความรู้ มีความเหมาะสม เพียงแต่ว่าตนถูกสื่อนำเสนอมากไปหน่อย
ต่อข้อถามว่าลำบากใจหรือไม่ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองมาก่อน พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนไม่ได้ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง ตนไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาก่อน เพียงแต่ว่าตนเป็นเพื่อนสนิทกับนายอนุทินตั้งแต่เรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.) เมื่อตอนที่ตนประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่ จ.สงขลาในช่วงดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่4 นายอนุทิน ก็รีบลงไปดูแลด้านการแพทย์
เมื่อถามว่านายอนุทินได้ให้คำแนะนำตั้งแต่การสมัครเป็น ส.ว.หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่ได้ให้คำแนะนำใดตอนที่ตนลาออกจากตำแหน่งประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ยังไม่ทราบเลย ยังตกใจว่าจะมาสมัครสว.แน่หรือ ตนก็บอกว่าเอาแน่ ก็ลองดู ตนบอกกับนายอนุทินว่าอยากมาทำหน้าที่แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากได้เป็น ส.ว.แล้ว ผมก็พูดคุยกับนายอนุทินอยู่เสมอ ท่านลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมก็ให้คำแนะนำ และติดตามท่านไปบางเวลาที่มีโอกาส หากศึกษาตามยุทธศาสตร์ชาติในปี 2570 ทหารจะต้องถอยตัวออกมา เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กับภาคส่วนต่างๆที่มีความเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าด้วยเหตุนี้จึงมีการวิเคราะห์กันว่าจะทำให้ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.สายสีน้ำเงิน พล.อ.เกรียงไกร กล่าว ไม่ครับ ๆ ที่ท่านว่าผม ส.ว.สายสีน้ำเงิน ผมสีน้ำเงินเข้ม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสถาบันเทิดทูนด้วยชีวิต เมื่อถามย้ำว่า จนถึงขณะนี้ได้รับยกหูโทรศัพท์ทาบทามเป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่มีใครทาบทามตนเลย มีแต่สื่อ ก็ขอบคุณมาก ที่สื่อไว้วางใจ หลังบ้านตนก็ไม่มีใครติดต่อมา ยังว่างอยู่
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีการวิจารณ์กันว่า ส.ว.ชุดนี้ เป็นสภาวิชาชีพ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะกำหนด 20 กลุ่มอาชีพที่มีบริบทแต่ละกลุ่ม ว่ามีความถนัดในเชิงอาชีพอย่างไร เพราะฉะนั้นทั้ง 200 คนที่เป็น ส.ว. ก็ถือว่าเป็นผู้แทนของกลุ่มอาชีพ เมื่อถามถึงข้อครหากติกาการเลือก ส.ว.ในครั้งนี้ที่มีการถูกโจมตีมาก ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแก้ไขกฎระเบียบหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เป็นมุมมองของแต่ละฝ่าย ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ เมื่อมีข้อท้วงติง เราต้องรับฟัง ส่วนจะแก้หรือไม่ก็ว่ากันด้วยเสียงส่วนใหญ่ต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์ ส.ว.ชุดนี้ มีการตั้งกลุ่มก๊วน พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนก็เห็นว่ามีทุกกลุ่มทุกก๊วน ตนไม่ทราบว่ามีกลุ่มใดบ้าง เห็นจากสื่อว่ามี กลุ่มอิสระ ก๊วนนั้นก๊วนนี้ ในสังคมเราย่อมมีคนที่รักชอบกัน ไปอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน แม้แต่แอพพลิเคชั่นไลน์ของเราเราก็มีกลุ่ม นักข่าวก็มีไลน์กลุ่ม เป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคม ส่วนกรณีที่เริ่มมีการเสนอผลประโยชน์เข้ามาแล้ว ทั้งรถยนต์ เงินเดือน มีจริงหรือไม่นั้น ตนไม่ได้รับการติดต่อทาบทามเลย