"อ.เจษฎ์" เคลียร์ชัด "ปาท่องโก๋" กินได้ ชี้ไขมันอันตรายต่อร่างกายมากกว่า "แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต"
จากกรณีโซเชียลแห่แชร์ข่าว "ไม่ควรกินปาท่องโก๋ เพราะมีการใส่เช้าก่า (แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต) ในการกระบวนการทอด ที่ส่งผลให้ไตทำงานหนัก" นั้น
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.67 รศ.ดร.เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจ Jessada Denduangboripant ระบุว่า ข่าวต้นทางไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไขมันอิ่มตัวต่างหากที่อันตรายต่อร่างกายมากกว่าแอมโมเนียมไบคาร์บอเนต ไขมันอิ่มตัวจะไปทำลายคลอเรสเตอรอลชนิดดี หรือ เอชดีแอล (HDL) ที่มีประโยชน์ในร่างกาย และไปเพิ่มคลอเรสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ซึ่ง LDL มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ คือ โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคระบบภูมิต้านทานให้ทำงานผิดปกติ
นอกจากนี้ การได้รับสารแอมโนเนียผ่านการสูดดมมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในลำคอได้ ซึ่งคนที่จะได้รับปริมาณสารดังกล่าวเป็นจำนวนมากมักจะเป็นคนทอดปาท่องโก๋เสียมากกว่าผู้บริโภค ดังนั้นจึงควรโฟกัสกับอันตรายจากไขมันอิ่มตัวและแคลอรี่แทนที่จะเป็นสารแอมโมเนีย
รศ.ดร.เจษฎา แนะนำเคล็ดลับกินปาท่องโก๋ ว่า เริ่มต้นจากการสังเกตน้ำมันในกระทะทอดของร้านค้า ต้องมีสีเหลืองใส ไม่คล้ำ พร้อมกินปาท่องโก๋คู่กับน้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืชเยอะ ๆ เพราะธัญพืชดังกล่าวจะช่วยไล่ไขมันในปาท่องโก๋ได้ และช่วยไม่ให้แป้งในปาท่องโก๋ ดูดซึมเร็วเกินไป จนทำให้หิวง่าย
ขอบคุณเพจ Jessada Denduangboripant