"อ.เจษฎ์" เคลียร์ชัด "ปาท่องโก๋" กินได้ ไขมันอันตรายมากกว่า "แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต"

2024-07-10 10:40:59

"อ.เจษฎ์"  เคลียร์ชัด  "ปาท่องโก๋" กินได้  ไขมันอันตรายมากกว่า "แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต"

Advertisement

"อ.เจษฎ์"  เคลียร์ชัด  "ปาท่องโก๋" กินได้ ชี้ไขมันอันตรายต่อร่างกายมากกว่า "แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต"   

จากกรณีโซเชียลแห่แชร์ข่าว "ไม่ควรกินปาท่องโก๋ เพราะมีการใส่เช้าก่า (แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต) ในการกระบวนการทอด ที่ส่งผลให้ไตทำงานหนัก" นั้น

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.67  รศ.ดร.เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โพสต์ข้อความผ่านเพจ Jessada Denduangboripant  ระบุว่า  ข่าวต้นทางไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ไขมันอิ่มตัวต่างหากที่อันตรายต่อร่างกายมากกว่าแอมโมเนียมไบคาร์บอเนต  ไขมันอิ่มตัวจะไปทำลายคลอเรสเตอรอลชนิดดี หรือ เอชดีแอล (HDL) ที่มีประโยชน์ในร่างกาย และไปเพิ่มคลอเรสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ซึ่ง LDL มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ คือ โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคระบบภูมิต้านทานให้ทำงานผิดปกติ

นอกจากนี้ การได้รับสารแอมโนเนียผ่านการสูดดมมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในลำคอได้ ซึ่งคนที่จะได้รับปริมาณสารดังกล่าวเป็นจำนวนมากมักจะเป็นคนทอดปาท่องโก๋เสียมากกว่าผู้บริโภค ดังนั้นจึงควรโฟกัสกับอันตรายจากไขมันอิ่มตัวและแคลอรี่แทนที่จะเป็นสารแอมโมเนีย

รศ.ดร.เจษฎา แนะนำเคล็ดลับกินปาท่องโก๋ ว่า  เริ่มต้นจากการสังเกตน้ำมันในกระทะทอดของร้านค้า ต้องมีสีเหลืองใส ไม่คล้ำ พร้อมกินปาท่องโก๋คู่กับน้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืชเยอะ ๆ เพราะธัญพืชดังกล่าวจะช่วยไล่ไขมันในปาท่องโก๋ได้ และช่วยไม่ให้แป้งในปาท่องโก๋ ดูดซึมเร็วเกินไป จนทำให้หิวง่าย

ขอบคุณเพจ Jessada Denduangboripant