ประธานวิปรัฐบาลลั่นไม่ปกป้องคนขับรถเอี่ยวขบวนการซื้อขายวุฒิการศึกษา ให้ว่าตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67 ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่คนขับรถเชื่อมโยงกับขบวนการซื้อขายวุฒิการศึกษา และตำแหน่งในสภาฯว่า ตนมองว่าเรื่องอื่นน่าสนใจกว่าเยอะ แต่เรื่องนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะผู้ถูกกล่าวหาก็ไปแจ้งความกันหมด ก็ให้ไปว่ากันในชั้นศาล ใครผิดใครถูกว่าไปตามนั้น ตนไม่ปกป้องใครทั้งนั้น ไม่ไปช่วยคดีใครทั้งนั้น ผิดว่าไปตามผิด แต่วันนี้เขายังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่เรียกไปสอบสวน เราก็รอฟังก่อน ไม่น่ากังวล ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เรื่องเล็ก ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะมีการกำชับในเรื่องนี้อย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตอนที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการฯ ใครจะมาเป็นที่ปรึกษา หรือเลขาฯ ตนจะส่งประวัติไปให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ตรวจสอบก่อน แต่คนอื่นจะทำแบบตนหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างไร บางครั้งก็มีการต้มตุ๋นกันมากมายในตอนนี้ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นตำรวจ บางครั้งก็หลอกว่าจะเอาตำแหน่ง กมธ.ในรัฐบาลนี้ให้ แต่ตนว่าไม่มีทาง แต่ก็ไม่รู้จริง ๆว่าเขาทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบ มั่นใจว่นหลังจากเกิดเรื่องนี้ จะมีการตรวจสอบเพิ่มมากขึ้น เป็นเรื่องดี ดังนั้นถ้ามีข้อสงสัย หรือมีข้อมูล แจ้งมาที่ตนได้ จะตรวจสอบให้ว่ามีคณะใดมาจ้างมาจ่ายเงินในการซื้อขายตำแหน่ง ตนจะดำเนินการให้
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีการไปแอบอ้างราคาการซื้อขายตำแหน่งสูงถึง 5 แสนบาท นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเรื่องจริงหรือไม่ คนที่ไปอ้างก็มีในทุกสังคม มีทั้งคนดี คนเลว บางคนอาจไปอ้างอาจจะจริง แต่ในข้อเท็จจริงมีหรือไม่ที่ไปขายราคาสูงถึง 5 แสนบาท ตนอยู่มา 20 กว่าปี ก็ได้เงินหลายร้อยล้านแล้วสิ บางคนอาจจะมีแต่เราไม่ทราบ แต่เราก็ฟังข้อมูลว่าอยู่ใน กมธ.ชุดไหน จะช่วยตรวจสอบอีกแรง ดังนั้นใครที่มาเป็นกรรมาธิการ แล้วจ่ายเงิน ช่วยแจ้งเบาะมาที่ตน ตนอยากรู้ว่าทำจริงหรือไม่ มั่นใจว่า ส.ส.เป็นผู้ที่มีเกียรติ กว่าจะได้รับการเลือกตั้งมาไม่ง่าย แต่ใครทำอะไรที่ไม่ดี ก็เตรียมตัวไว้เลยที่จะไม่ได้กลับมาเป็น ส.ส.อีก
เมื่อถามว่าหน้าที่ หรือผลประโยชน์ ที่เป็นแรงจูงใจให้เข้ามาเป็น กมธ. นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่เห็นว่าเขาจะได้ผลประโยชน์อะไร นอกจากมานั่งประชุม นอกจากประโยชน์ที่ทำหน้าที่ให้ชาติบ้านเมือง ก็ไม่สามารถเอาตำแหน่งหน้าที่ไปหาเงินได้ แต่คนที่มีบัตรมีป้าย ตนก็ไม่ทราบ แม้แต่สื่อก็ยังมีสื่อเท็จเลย
ต่อข้อถามว่าจะถือว่าใช้เป็นบัตรเบ่งได้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นผู้แทนฯ ก็ยังต้องต่อคิวเพื่อกินก๊วยเตี๋ยว เบ่งตรงไหน เดี๋ยวนี้คนฉลาดทันกันหมด จะไปอ้างโน่นนี่ ไม่มีประโยชน์ ทำตัวใหญ่เกินมนุษย์คนอื่น ไม่มีใครยอมรับ สังคมวันนี้ประณามอยู่แล้ว ขนาดเป็นประธานวิปยังแซงใครไม่ได้เลย แล้วบัตรเบ่งจะไปเบ่งอะไรได้ ผมเชื่อว่าประธาน กมธ.ทุกคณะคงจะตรวจสอบ เราจะบอกไปยังวิปรัฐบาลทุกท่านช่วยกันตรวจสอบให้โปร่งใส สภาฯแห่งนี้ต้องสง่างาม ส่วนจะมีการคาดโทษหรือไม่หากไม่ดำเนินการ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องทำ ใครก็ไม่อยากเป็นประธาน กมธ.ที่รับเรื่องร้อนๆมาใส่ตัวเอง มันเสื่อมเสียชื่อตัวเอง และเสียชื่อพรรค