บก.ปอศ. รวบอดีตกรรมการบริษัทออกใบกำกับภาษีเท็จ รัฐเสียหายสูงถึง 400 ล้าน เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอ้างไม่ทราบว่ามีชื่อเป็นกรรมการบริษัท
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ชวพล เชื้อเพ็ชร์ สว.กก.2 บก.ปอศ. ร.ต.อ.สรรเสริญ สอดสุข ร.ต.อ.ภาคภูมิ พานิชขจรกุลสุข รอง สว.กก.2 บก.ปอศ. ด.ต.ชยุต ปัญญวรรณศิริ ด.ต.เปรมวิชช์ บินตาสุระสีห์ ส.ต.อ.พิทวัส รัตนบริหาร ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม น.ส.กุลวดี อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดฐาน "ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร" อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4(3) แห่งประมวลรัษฎากร โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถริมถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เจตจตุจักร กทม.
คดีนี้สืบเนื่องจากว่ากรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ ที่ กก.2 บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาความผิดกับ น.ส.กุลวดี ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนที่ทำหน้าที่เรียกเก็บเงิน โดยพฤติการณ์เกิดจากเมื่อปี 2556-2559 เจ้าหน้าที่สรรพากรได้ตรวจสอบพบว่า ทางบริษัทของผู้ต้องหาไม่ได้มีการเปิดกิจการตามที่แจ้งไว้ และจากตรวจสอบใบกำกับภาษีที่สำนักงานสรรพากร ระบุสินค้าเป็นประเภทเศษเหล็ก บางฉบับระบุสินค้าเป็นประเภทเศษผ้า ซึ่งไม่สัมพันธ์กับการจดทะเบียนแต่อย่างใด อีกทั้งสถานประกอบการของบริษัทมีเนื้อที่เพียง 9 ตร.ม. ไม่สามารถใช้เก็บสินค้าประเภทเศษเหล็กหรือผ้าตามที่ระบุในใบกำกับภาษีได้ ประกอบกับบริษัทยื่นภาษี แบบ ภ.พ.30 แสดงยอดชำระภาษีไว้เพียงเล็กน้อย ทำให้ดูเสมือนว่ามีการประกอบการจริง
ภายหลังจากพบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงได้มีการเชิญกรรมการผู้จัดการของบริษัท ให้มาเข้ามาพบกับทางเจ้าหน้าที่ แต่กลับไม่มีผู้ใดมาพบและไม่ส่งมอบเอกสารหลักฐานเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการประกอบกิจการและพิสูจน์เกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีว่ามีการซื้อขายกันจริง จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการประกอบกิจการจริง เข้าลักษณะเป็นการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากรโดยรัฐได้รับความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้ดำเนินการขอศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นางสาวกุลวดีฯ (ผู้ต้องหา) จะมาปรากฏตัวบริเวณสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เเละทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา ก่อนนำตัว ผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่าไม่ทราบว่าตนเองมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวตั้งแต่เมื่อใด