"วราวุธ" ยันไม่ยุ่งศึกเลือกตั้งนายก อบจ.สุพรรณบุรี บอกทั้งซ้ายขวาเป็นพี่ ขึ้นอยู่กับเสียง ปชช. ชี้สัมพันธ์ตระกูลสะสมทรัพย์ยังปึก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ที่ จ.นครราชสีมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่พรรคเพื่อไทยวางกลยุทธ์รวบรวมบ้านใหญ่จนสามารถชนะใน จ.ปทุมธานีได้ ส่วน จ.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนามีกลยุทธ์อย่างไรว่า ในแต่ละจังหวัดซึ่งมีผู้นำในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนการเมือง หรือท้องถิ่นที่รู้จักและทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการทำงานให้กับส่วนร่วม หากผู้นำชุมชนมีการประสานงานกับระดับท่องถิ่นและระดับประเทศ ย่อมเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน
ส่วนกลยุทธ์เครือข่ายบ้านใหญ่ เป็นเครือข่ายมยการทำงาน ในแต่ละจังหวัดจะมีความแตกต่างกันไปสุพรรณบุรีก็จะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ในต้นปีหน้า ก็ต้องให้ผู้สมัครแต่ละคนดำเนินการกันไป ถ้าถามว่ารู้จักกับทั้งสองท่านที่จะลงชิงตำแหน่งหรือไม่ ทั้งนายอุดม โปร่งฟ้าที่ปรึกษา รมวพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรีหลายสมัย ก็เป็นที่รู้จักกันดี เพราะท่านหนึ่งเคยทำงานตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา บิดาของตนเองหลายสิบปี อีกท่านก็ทำงานด้วยกันมา ตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานการเมืองใหม่ ๆ ส่วนตัวในเชิงนโยบายไม่ได้ลงไปดูในระดับท้องถิ่น
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ปัญหารอยร้าวระหว่างทั้งสองนั้น ตนเองคงไม่เข้าไปยุ่ง เพราะล้วนมีความสนิทชิดเชื้อกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี ซ้ายก็พี่ ขวาก็พี่ คงต้องปล่อยให้แต่ละท่านดำเนินไปตามครรลอง ขอคะแนนเสียงต่อประชาชน และคงไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง สส.ในจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะอีกสักพักใหญ่ ยังอีกหลายปี แล้วแต่พี่น้องประชาชนว่าแต่ละพื้นที่มีความประสงค์เช่นไร
เมื่อถามว่า พี่กับพี่จะตัดคะแนนกันหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องการเลือกตั้ง ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร จะเป็นใคร หรือพรรคไหน สุดท้ายประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามี สส.ในพื้นที่ พร้อมทำงานตลอดเวลา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจีบตระกูลสะสมทรัพย์ บ้านใหญ่นครปฐม เพื่อให้กลับรังเก่า ยังเหนียวแน่นกันใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่าทุกวันนี้ จ.นครปฐม มี ส.ส.สังกัดชาติไทยพัฒนา 3 คน ซึ่งทำงานกันอย่างใกล้ชิด พูดคุยทำงานผ่านคณะกรรมาธิการงบประมาณ พรรคชาติไทยพัฒนายังเป็นเนื้อเดียวกันอยู่