ทลายคาราโอเกะนวดแผนโบราณแฝงค้ากาม

2024-07-01 13:17:25

ทลายคาราโอเกะนวดแผนโบราณแฝงค้ากาม

Advertisement

บก.ปคม. ร่วมกับ สน.หนองจอกทลายคาราโอเกะนวดแผนโบราณแฝงค้ากามสาวไทย-ลาว 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์  พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส  พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์  พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ประจำ (สบ5) ปฏิบัติราชการ บก.ปคม. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ ว่าที่ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง ว่าที่ พ.ต.ต.ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช สว.กก. 1 บก.ปคม. ว่าที่ พ.ต.ต.พศวัต ศรีสุขโข ร.ต.อ.ฉลอง เกิดทรัพย์ ร.ต.ท.หญิง สุกัลยา โพธิ์คัง รอง สว.(ป) กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย  นางรัศมี  สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.เกศราวดี  สัญชาติไทย  ผู้ต้องหาที่ 2   น.ส.ขันทอง สัญชาติลาว ผู้ต้องหาที่ 3  น.ส.พูเงิน  สัญชาติลาว ผู้ต้องหาที่ 4  น.ส.นภาพร สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 5  นางสาวิตรี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 6 น.ส.มาด สัญชาติลาว ผู้ต้องหาที่ 7  โดยจับกุมได้ที่ร้านคาราโอเกะ แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กทม.

ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 1 กระทำความผิดฐาน 1. เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณี  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี  2. รับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต  ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว 

ผู้ต้องหาที่ 2, 5 ,6 กระทำความผิดฐาน 1. มั่วสุมในสถานการค้าประเวณี  ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี   ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 กระทำความผิดฐาน 1. มั่วสุมในสถานการค้าประเวณี  ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี  2. เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน  พ.ร.ก.บริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว 

ผู้ต้องหาที่ 7 กระทำความผิดฐาน 1. มั่วสุมในสถานการค้าประเวณี   พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี  2. เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  พ.ร.บ.คนเข้าเมือง  3. เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน  พ.ร.ก.บริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว

สำหรับคดีนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กก.1 บก.ปคม. ร่วมกับ สน.หนองจอก ได้ดำเนินการ ตามแผนจัดระเบียบสังคม ปกป้องสิทธิเด็กและสตรี ปราบปรามการค้ามนุษย์ และสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท โดยได้ดำเนินการวางแผนเข้าจับกุม ร้านคาราโอเกะ ถ.ประชาราษฎร์ แขวงหนองจอก เขตหนองจอก  กทม.  ซึ่งสืบทราบว่ามีการให้บริการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมทั้งมีการให้บริการนวดแผนโบราณแต่กลับมีการแอบแฝงการค้าประเวณีภายในร้านจากทั้งหญิงไทยและหญิงซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการปฏิบัติการอำพราง ล่อซื้อเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยได้เข้าไปตรวจสอบ พบมีพนักงานสาวในร้านปรนนิบัตินั่งดื่มกินกับลูกค้า และเสนอขายบริการทางเพศ จึงตกลงและจ่ายเงินค่าซื้อบริการทางเพศเป็นที่เรียบร้อย และพนักงานหญิงสาวพาขึ้นไปบริเวณห้องชั้นบนของร้าน และได้ทำการตระเตรียมถุงยางอนามัยเพื่อใช้ในการร่วมประเวณี เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุม

จากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบพื้นที่ ภายในร้านพบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา โดยบริเวณด้านล่าง มีโต๊ะให้บริการสำหรับให้ลูกค้านั่งดื่มกิน ในส่วนบริเวณ ชั้น 2-3 มีการดัดแปลงซอยห้อง กว่า 10 ห้อง มีฟูกปูนอนกับพื้น เพื่อใช้ในการนวดแฝงค้าประเวณี และยังตรวจพบถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นภายในร้าน มีห้องน้ำใช้ร่วมกัน ไม่มีการเก็บขยะสิ่งปฏิกูลที่เป็นสัดส่วน ระบบระบายอากาศมีความแออัด ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีสภาพไม่ถูกสุขลักษณะพื้นฐานในการที่จะประกอบเป็นกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือ นวดแผนไทย และสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคต่างๆเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่มาเข้าใช้บริการ

ในส่วนของพนักงานหญิงที่ให้บริการอยู่ภายในร้าน พบเป็นพนักงานหญิงชาวไทยและหญิงต่างด้าวทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็นเป็นชาวไทย 3 คน และ บุคคลต่างด้าวชาวลาว 3 คน และ พบเจ้าของร้าน 1 คน ทราบชื่อ คือ นางรัศมี สัญชาติ ไทย แสดงตัวเป็นเจ้าของ และผู้ดูแลกิจการร้านดังกล่าว โดย เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นที่บริเวณเคาน์เตอร์คิดเงินที่ นางรัศมี ผู้ต้องหาที่ 1 นั่งดูแลอยู่ ซึ่งตรวจพบธนบัตร ที่ได้มีการลงประจำประวันล่อซื้อ อยู่กับตัว รับสารภาพว่าเป็นเงินที่ทางร้านได้เป็นค่าให้พนักงานหญิงขึ้นไปขายบริการทางเพศ  ผู้ต้องหาที่ 2 - 3 ตรวจพบอยู่ภายในห้องและพบถุงยางอนามัยพร้อมซองที่ฉีกพร้อมใช้และพบธนบัตร ที่ได้มีการลงประจำประวันล่อซื้อ อยู่กับตัว รับสารภาพว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายบริการทางเพศ, ผู้ต้องหาที่ 4-7 ตรวจพบอยู่บริเวณชั้นล่างของร้าน โดยรับว่าเป็นพนักงานบริการลูกค้าในสถานค้าประเวณีนี้ 

ในการปฏิบัติการทางเจ้าหน้าที่ได้นำพนักงานหญิงบริการทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคัดกรองช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (NRM) ว่า มีการขู่บังคับ หรือ กระทำการอื่นใดแก่พนักงานหญิงบริการภายในร้านที่เข้าข่ายเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งไม่พบว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์แต่อย่างใด  สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ