5 บทอัศจรรย์วรรณคดีไทย ที่อีโรติกข้ามยุคสมัย

2018-04-05 14:45:54

5 บทอัศจรรย์วรรณคดีไทย ที่อีโรติกข้ามยุคสมัย

Advertisement

ในที่สุดแฟนละคร “บุพเพสันนิวาส” จะได้ชมฉาก “โล้สำเภา” ที่รอคอย กับบทอัศจรรย์ที่ “รอมแพง” ผู้เขียนได้รจนาร้อยกรองบรรยายเอาไว้ได้อย่างไพเราะ ทว่าฟินกันไปเป็นแถบๆ

ข้ามนทีสรวงสวรรค์ทุกชั้นฟ้า      สมอุราซานซยสยบทรวง”
เมื่อผ่านช่องเข้าอ่าวคราน้ำขึ้น    พอหายมึนสอดสั่งทั้งซ้ายขวา

น้ำเจือน้อยค่อยวางทางติดตรึง   ขยับหายโยกคลึงคราคลื่นมา
“โล้สวาทวาดใบสำเภาพริ้ว         ระเรื่อยลิ่วคลองแคบคละขัดขึง"        





        

กระทั่งเป็นที่จับตาว่าฉากนี้จะทำให้ผู้ชมฟินได้เช่นเดียวกับอ่านหนังสือหรือไม่




อย่างไรก็ตาม นี่มิใช่ครั้งแรกที่มีบทบรรยายฉากอัศจรรย์กันแบบถึงพริกถึงขิงถึงเนื้อถึงตัวกันเช่นนี้ในโลกวรรณกรรมไทย หากมีการบรรยายบทอัศจรรย์ในงานวรรณกรรมไทยมาแต่โบร่ำโบราณแล้ว

พิสูจน์ได้จาก 5 บทอัศจรรย์ที่รับประกันความฟิน 



1. ขุนช้างขุนแผน



สำนวนครูแจ้ง
บทอัศจรรย์ระหว่าง พลายแก้ว (ขุนแผน) กับนางบัวคลี่ ในคืนแต่งงาน

เกิดพยับพยุห์พัดอัศจรรย์                 สลาตันเป็นระลอกกระฉอกฉาน
ทะเลลึกดังจะล่มด้วยลมกาฬ           กระทบดานกระแทกดังกำลังแรง

สำเภาจีนเจียนจมด้วยลมซัด             สลุบลัดเลียบบังเข้าฝั่งแฝง


ไหหลำแล่นตัดแหลมแคมตะแคง      ตลบตะแลงเลาะเลียมมาตามเลา

ถึงปากน้ำแล่นส่งเข้าตรงร่อง           ให้ขัดข้องแข็งขืนไม่ใคร่เข้า
ด้วยร่องน้อยน้ำคับอับสำเภา           ขึ้นติดตั้งหลังเต่าอยู่โตงเตง

พอกำลังลมจัดพัดกระโชก             กระแทกโคกกระท้อนโขดเรือโดดเหยง
เข้าครึ่งลำหายแคลงไม่โคลงเคลง จุ้นจู๊เกรงเรือหักค่อยยักย้าย



ด้วยคลองน้อยเรือถนัดจึงขัดขึง      เข้าติดตรึงครึ่งลำระส่ำระสาย
พอชักใบขึ้นกบรอกลมตอกท้าย      ก็มิดหายเข้าไปทั้งลำพอน้ำมา

พอฝนลงลมถอยเรือลอยลำ           ก็ตามน้ำแล่นล่องออกจากท่า
ทั้งสองเสร็จสมชมชื่นดั่งจินดา      ก็แนบหน้าผาศุกมาทุกวัน



2. พระอภัยมณี
ผู้ประพันธ์ สุนทรภู่
บทอัศจรรย์ระหว่างพระอภัยมณีกับนางเงือก

พลางอิงแอบแนบน้องประคองเคล้า         คอยต้องเต้าเต่งอุรามารศรี
พระเชยปรางค์ทางฉะอ้อนอ่อนอินทรีย์     ร่วมฤดีเดือนหงายสบายใจ

อัศจรรย์ครั่นครื้นเป็นคลื่นคลั่ง                 เพียงจะพังแผ่นผาสุธาไหว
กระฉอกฉาดหาดเหวเป็นเปลวไฟ             พายุใหญ่เขยื้อยโยกกระโชกพัด

เมขลาล่อแก้วแววสว่าง                             อสูรขว้างเขวี้ยงขวานประหารหัด
พอฟ้าวาบปลาบแปลบแฉลบลัด                เฉวียนฉวัดวงรอบขอบพระเมรุ

พลาหกเทวบุตรก็ผุดพุ่ง                             เป็นฝนฟุ้งฟ้าแดงดังแสงเสน
สีขรินทร์ อิสินธรก็อ่อนเอน                         ยอดระเนนแนบน้ำแทบทำลาย

สมพาสเงือกเยือยเย็นเหมือนเล่นน้ำ          ค่อยเฉื่อยฉ่ำชื่นชมด้วยสมหมาย
สัมผัสพิงอิงแอบเป็นแยบคาย                   ไม่เคลื่อนคลายคลึงเคล้าเยาวมาลย์


3. ลิลิตพระลอ
บทอัศจรรย์ระหว่าง พระลอ และ พระเพื่อนกับพระแพง

ส่วนสามกษัตริย์แก่นท้าว      กรโอบองค์โน้มน้าว
แนบเนื้อเรียงรมย์ ฯ

เชยชมชู้ปากป้อน      แสนอมฤตรสข้อน
สวาทเคล้าคลึงสมร ฯ

กรูเกี้ยวกรกอดเกื้อ      เนื้อแนบเนื้อโอ่เนื้อ
อ่อนเนื้อเอาใจ ฯ

พักตราใสใหม่หม้า      หน้าแนบหน้าโอ่หน้า
หนุ่มหน้าสรสม ฯ

นมแนบนมนิ่มน้อง      ท้องแนบท้องโอ่ท้อง
อ่อนท้องทรวงสมร ฯ

สมเสน่หอรใหม่หมั้ว      กลั้วรสกลั้วกลิ่นกลั้ว
เกลสกลั้วสงสาร ฯ

บุษบาบานคลี่คล้อย      สร้อยแลสร้อยซ้อนสร้อย
เสียดสร้อยสระศรี ฯ

ภุมรีคลึงคู่เคล้า              กลางกมลยรรเย้า
ยั่วร้องขานกัน ฯ

สรงสระสวรรค์ไป่เพี้ยง      สระพระนุชเนื้อเกลี้ยง
อาบโอ้เอาใจ ฯ

แสนสนุกในสระน้อง      ปลาชื่นชมเต้นต้อง
ดอกไม้บัวบาน ฯ

ตระการฝั่งสระแก้ว      หมดเผ้าผงผ่องแผ้ว
โคกฟ้าฤๅปูน ฯ

บุญมีมาจึงได้          ชมเต้าทองน้องไท้
พี่เอ้ยวานชม หนึ่งรา ฯ

พระเพื่อนสมสมรแล้ว ลอราชเชยชมแก้ว
แก่นไท้แพงทอง เล่านา ฯ

ละบองบรรพหลากเหล้น บ เหนื่อย บ ได้เว้น
เหิ่มชู้สมสมร ฯ

ดุจอัสดรหื่นห้า      แรงเร่งเริงฤทธิ์กล้า
เร่งเร้งฤๅเยาว์

ดุจสารเมามันบ้า      งาไล่แทงงวงคว้า
อยู่เคล้าคลุกเอา ฯ

ประเล้าโลมอ่อนไท้      แก้วพี่เอยเรียมได้
ยากด้วยเยาวมาลย์ ฯ

เอนดูวานอย่าพร้อง      เชิญพระนุชนิ่มน้อง
อดพี่ไว้เอาบุญ ก่อนเทิญ ฯ



4. อิเหนา
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2
บทอัศจรรย์ระหว่าง อิเหนากับนางจินตะหราวาตี

อัศจรรย์บันดาลเป็นฝอยฝน      ดวงอุบลชื่นแช่มแย้มขยาย
ที่ห่อหุ้มกลีบกล้ำก็จำคลาย      คลี่ระบายบานแบ่งรับแสงจันทร์

ภุมรินบินร้องเร่ร่อน                  แทรกไซ้เกสรโกสุมสวรรค์
สองสมสอดคล้องทำนองกัน     เกษมสันต์หรรษาในราตรี


5. ระเด่นลันได
ผู้ประพันธ์ พระมหามนตรี (ทรัพย์)
บทอัศจรรย์ระหว่างระเด่นกับนางประแดะ

อัศจรรย์ลั่นพิลึกกึกก้อง                    ฟ้าร้องครั่นครื้นดังปืนใหญ่
เกิดพายุโยนยวบสวบสาบไป           หลังคาพาไลแทบเปิดโปง

ฝนตกห่าใหญ่ใส่ซู่ซู่                         ท่วมคูท่วมหนองออกนอกเจิ่ง
คางคกขึ้นกระโดดโลดลองเชิง          อึ่งอ่าเริงร่าร้องแล้วพองคอ

นกกระจอกออกจากวิมานมะพร้าว      ต้องฝนทนหนาวอยู่งอนหง่อ
ขนคางหางปีกเปียกจนมอซอ             ฝนก็พอขาดเม็ดเสร็จบันดาล