"พีระพันธุ์" นำทัพคนรักสถาบันสวมเสื้อเหลือง ร่วมชม "๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ" (มีคลิป)

2024-06-25 09:07:14

"พีระพันธุ์" นำทัพคนรักสถาบันสวมเสื้อเหลือง ร่วมชม "๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ" (มีคลิป)

Advertisement

"พีระพันธุ์" นำทัพคนรักสถาบันสวมเสื้อเหลือง ร่วมชม "๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ" รอบพิเศษ  ปลุกกระแสเรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบไม่บิดเบือน ในโอกาสวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย.2475

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายวิวัธน์ จิโรจน์กุล ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้บริหารพรรค และสมาชิกพรรค ร่วมกับคนรักสถาบันพระมหากษัตริย์ สวมใส่เสื้อเหลืองร่วมกิจกรรมพิเศษ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย ผ่านภาพยนตร์แอนิเมชันที่เป็นกระแสโด่งดังแห่งยุคสมัยเรื่อง  "๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ"  (2475 DAWN OF REVOLUTION) เนื่องในโอกาสวันเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย วันที่ 24 มิ.ย. 2475


กิจกรรมพิเศษในครั้งนี้ มีคนรักสถาบันฯ เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก ล้นโรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ทั้ง 2 โรง คือ โรงที่ 9 และโรงที่ 13 สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ที่ไม่มีการบิดเบือน

สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ เป็นภาพยนตร์ที่คนไทยควรรับชม ซึ่งจะพาย้อนประวัติศาสตร์โดยละเอียด ตั้งแต่การถือกำเนิดของคณะราษฎร การวางแผนปฏิวัติยึดอำนาจจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2475 เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เรื่อยมาจนถึงความวุ่นวายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไปจนถึงการประกาศสละราชสมบัติของรัชกาลที่ 7 ในปี พ.ศ. 2478 ด้วยการตั้งคำถามและหาคำตอบผ่านการสนทนาอย่างมีวุฒิภาวะของทุกตัวละครในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตย


พรรครวมไทยสร้างชาติ เชื่อมั่นว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองซึ่งถือเป็นอีกห้วงเวลาสำคัญของชาติไทย จะช่วยให้คนไทยมีความเข้าใจถึงจุดกำเนิดและรากเหง้าของประชาธิปไตยในประเทศของเรา และได้เรียนรู้ความผิดพลาดในอดีตเพื่อหาแนวทางที่จะลดความแตกสามัคคีในสังคม และสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป