อธิบดีอัยการภาค 7 สั่งฟ้อง “เปรมชัย” 6 ข้อหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร สั่งไม่ฟ้อง 4 ข้อหา ส่งสำนวนกลับให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาแล้วรอตอบกลับ
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานอัยการภาค 7 จ.ราชบุรี นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 และนายทนง ตะภา อัยการ จ.กาญจนบุรี แถลงข่าวความคืบหน้าคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 ราย ผู้ต้องหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี
นางสมศรี ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2561 ได้รับสำนวนสอบสวนคดีระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กล่าวหานายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ซึ่งพนักงานอัยการและคณะทำงานได้มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมไป 2 ครั้ง สำหรับนายเปรมชัย ได้มีคำสั่งฟ้องหาที่ 1 พาอาวุธปืนไปในตัวหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาที่ 2 ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อหาที่ 3 ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อหาที่ 4 ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อหาที่ 5 ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มากระทำการผิดกฎหมาย และข้อหาที่ 6 ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
นางสมศรี กล่าวต่อว่า ข้อหาที่ไม่ได้สั่งฟ้อง คือ 1.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 4.ร่วมกันกระทำการทารุณกรรมสัตว์ป่าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทั้งนี้หลังจากที่มีคำสั่งแล้วจะส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เพื่อให้มีความเห็นทางคดีว่าเห็นชอบในคำสั่งที่อธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งไปหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดไปให้แล้ว ขณะนี้คณะทำงานได้เตรียมร่างคำฟ้องเรียบร้อยแล้วเพียงแต่รอความเห็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่า เห็นชอบกับคำสั่งอธิบดีอัยการภาค 7 หรือไม่ ถ้าเห็นชอบก็จะยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ต่อไป ทั้งนี้หากมีความเห็นแย้ง ก็จะส่งสำนวนไปอัยการสูงสุด เพื่อชี้ขาดความเห็นแย้ง แต่หากไม่แย้งจะยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิต่อไป
ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 นายยงค์ สั่งฟ้องข้อหาเช่นเดียวกันกับนายเปรมชัย และมีเพิ่ม 1 ข้อหาคือ ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 3 นางนที ได้สั่งฟ้องเกือบทุกข้อหา มีสั่งไม่ฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าด้วย เช่นเดียวกับนายธานีก็สั่งฟ้องเช่นเดียวกันกับนายยงค์ ทุกข้อหาเพิ่มไปอีก 1 ข้อหาคือ ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่า ส่วนข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องนายธานีจะมีร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันนำเครื่องมือ สำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ใดๆเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์ และร่วมกันทำทารุณกรรมสัตว์ป่าโดยไม่มีเหตุอันสมควร และให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 462,000 บาท ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช