รวบผู้ต้องหาชักชวนลงทุนปล่อยสินเชื่อความเสียหายกว่า 7 ล้าน

2024-06-12 17:30:36

รวบผู้ต้องหาชักชวนลงทุนปล่อยสินเชื่อความเสียหายกว่า 7 ล้าน

Advertisement

ตร.สอบสวนกลางรวบผู้ต้องหาชักชวนลงทุนปล่อยสินเชื่อความเสียหายกว่า 7 ล้าน 

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.67  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สมชาย ศรพล รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.  ร่วมกันจับกุม น.ส.เพ็ญพิช  หรือ รชยา  อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1756/2567 ลง 24 เม.ย.67 ในฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์, กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ​สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ที่ 11 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ บก.ปอศ. ด้วยเหตุเมื่อประมาณเดือน พ.ค.65 ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายกับพวก มาร่วมลงทุนในธุรกิจซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีตัวอย่างการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น จำนองที่ดิน จำนำรถยนต์ ฯลฯ พร้อมเสนอผลตอบแทนและระยะเวลาในการลงทุน

ในสินทรัพย์ต่างๆ โดยให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งจะมีทรัพย์สินมาให้ผู้เสียหายลงทุนทุกวันและเสนอผลตอบแทนรายวันในอัตราสูงตั้งแต่ 100 ถึง 20,000 เปอร์เซ็นต์ ของเงินลงทุนต่อปี โดยผู้ต้องหาจะเป็นผู้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจที่กล่าวอ้างด้วยตนเองและจะแบ่งผลตอบแทนมาให้ตามสัดส่วนของการลงทุน ผู้เสียหายจึงเชื่อว่ามีการทำธุรกิจจริงจึงตัดสินใจร่วมลงทุน โดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาจำนวนหลายบัญชีหลายธนาคาร ซึ่งในช่วงแรกหลังจากที่ได้ร่วมลงทุน ผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหาชักชวนจริง จากนั้นได้มีการชี้ชวนให้ลงทุนเพิ่มทุกๆ วัน โดยจะมีทรัพย์สินให้ร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากและระบุผลกำไรที่จะได้รับ จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2565 ผู้ต้องหาเริ่มผัดผ่อนไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนและเงินลงทุนคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายได้ติดพยามยามติดตามทวงถาม จนกระทั่งผู้ต้องหาได้หลบหนีไปเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 7,326,937 บาท

เจ้าหน้าที่ บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล กรณีถูกหลอกให้ร่วมลงทุนดังกล่าว จนทราบว่าคนร้ายมีพฤติการณ์สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงเหยื่อโดยไม่มีการประกอบธุรกิจการปล่อยสินเชื่อในสินทรัพย์ต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังพบลักษณะการหมุนเวียนเงินจากผู้ลงทุนรายเดิมไปยังผู้ลงทุนรายใหม่ในระยะเวลาอันรวดเร็วและบางส่วนมีการนำไปซื้อทรัพย์สินต่างๆ เป็นของตนเอง ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา

​ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่าให้การว่า ไม่สามารถหมุนเวียนเงินลงทุนและผลตอบแทนไปจ่ายให้ผู้เสียหายได้ตามกำหนดระยะเวลาจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบและติดต่อกับผู้เสียหาย