ผู้ว่าฯกทม.สั่งปิดอพาร์ตเมนต์ไฟไหม้ตรวจสอบ (คลิป)

2018-04-03 12:25:35

ผู้ว่าฯกทม.สั่งปิดอพาร์ตเมนต์ไฟไหม้ตรวจสอบ  (คลิป)

Advertisement


“อัศวิน" ลงพื้นที่ตรวจราชเทวีอพาร์ตเมนต์หลังเกิดเหตุไฟไหม้ เผยต้นเพลิงเกิดบริเวณช่องสำหรับเดินสายไฟภายในอาคาร สั่งปิดอาคารจนกว่าจะตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยเรียบร้อย พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือและตั้งเต็นท์ที่พักสำหรับผู้ประสบภัยแล้ว 




เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 เม.ย. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วยนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัด กทม. พร้อม คณะผู้บริหาร กทม. ลงพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ราชเทวีอพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรบุรี 18 โดยเมื่อเวลา 02.33 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ราชเทวีอพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรบุรี 18 เขตราชเทวี จึงได้แจ้งไปยังสถานีดับเพลิงพญาไท และสถานีดับเพลิงใกล้เคียง ไปที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก และมีผู้ติดค้าง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้น้ำทำการดับไฟ และช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในอาคาร โดยเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณช่องสำหรับเดินสายไฟภายในอาคาร (ห้องชาร์ป) บริเวณชั้นที่ 1 – 5 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลา 07.07 น. เพลิงได้สงบลง และพบผู้เสียชีวิตบริเวณ ชั้นที่ 12 จำนวน 1 ราย และมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล จำนวน 2 ราย





พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้อาคารราชเทวีอพาร์ตเมนต์ ซึ่งเป็นอาคารสูงและมีผู้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในขณะนี้พบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักควันไฟ สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร เพื่อจะได้แจ้งเตือนและป้องกันต่อไป อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญของการทำงานครั้งนี้ คืออพาร์ตเมนต์ตั้งอยู่ในซอยแคบ ทำให้รถกระเช้าซึ่งมีขนาดใหญ่เข้าไปได้ยาก ต้องใช้รถขนาดเล็กเข้าไปดับไฟ นอกจากนี้กทม.ได้ประสานเฮลิคอปเตอร์ รพ.ตำรวจเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บริเวณชั้นบนอีกทางหนึ่ง แต่บนดาดฟ้าของอาคารไม่มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยลำเลียงประชาชนจากชั้นบนออกจากอาคาร เจ้าหน้าที่จึงต้องเดินเท้าเข้าไปช่วยเหลือและนำออกมาจากอาคารให้เร็วที่สุด



ผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อว่า อาคารแห่งนี้ได้รับอนุญาตก่อสร้างตั้งแต่ปี 2530 ก่อนกฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ใช้บังคับ ซึ่งมีข้อกำหนดเกี่ยวกับระบบดับเพลิงและป้องกันอัคคีภัยของอาคารสูงไว้ อาคารจึงไม่ถูกบังคับให้ต้องมีระบบสปริงเกอร์ดับไฟ ที่ว่างรอบอาคาร 6 เมตร และถนนสาธารณะซึ่งต้องมีความกว้าง10 เมตร ทำให้ไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยที่พร้อมมากนัก ซึ่งสำนักการโยธา และสำนักงานเขต จะได้ดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดอื่นๆต่อไป สำหรับมาตรการดูแลผู้ประสบภัยในเบื้องต้นนั้น สำนักงานเขตราชเทวี ได้เข้ามาตั้งศูนย์ช่วยเหลือและตั้งเต็นท์ที่พักสำหรับผู้ประสบภัยแล้ว โดยกั้นพื้นที่ห้ามเข้าไปภายในอาคารโดยเด็ดขาดจนกว่าจะตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยของอาคารเป็นที่เรียบร้อย





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี ตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต ภายในห้องพักเลขที่ 1239 ชั้น 12 ทราบชื่อว่า นายพีรณัฐ อินวกูล อายุ 17 ปี คาดเกิดจากการสำลักควันไฟขาดอากาศหายใจ ไม่พบแผลไฟไหม้ ส่วนผู้เสียชีวิตที่ รพ.กลาง คือ นายเมทิพย์ รอดทิม อายุ 46 ปี ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีกคนเป็นชายยังไม่ทราบชื่อ



ด้าน ผู้พักอาศัยในอาคารเล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ว่า อาศัยอยู่ที่ชั้น5 ชั้นเดียวกับห้องที่เกิดควันไฟพวยพุ่งออกมา ขณะเกิดเหตุ ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันจึงเปิดห้องออกมาดู เห็นควันจำนวนมากจึงรีบวิ่ง แต่ไม่เห็นเปลวไฟ ยอมรับตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น