เลือดกำเดาไหล

2024-05-29 13:09:09

เลือดกำเดาไหล

Advertisement

เลือดกำเดาไหล  

เลือดกำเดาไหล เป็นภาวะเลือดออกทางโพรงจมูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เลือดออกทางจมูกด้านหน้า และเลือดออกทางจมูกด้านหลังโพรงจมูก ซึ่งจะมีอาการรุนแรงมากกว่าเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ทำให้มี เลือดกำเดา ออกปริมาณมากและอาจทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้

สาเหตุเกิดจาก

-สภาพอากาศร้อนจัดทำให้เส้นเลือดบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกแห้งและแตกออกเมื่อถูกสัมผัสแรง ๆ

-ได้รับอุบัติเหตุหรือการกระแทกรุนแรงบริเวณจมูก

-ใช้ยาบางใช้ยาบางชนิดไม่ถูกวิธีหรือเป็นเวลานาน เช่น ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก เป็นต้น

-ผู้ป่วยที่เคยเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน

-การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

-มีสิ่งที่แปลกปลอมเข้าไปในจมูก

-เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตกหรือฉีกขาด

เลือดกำเดาไหลแบบไหนต้องพบแพทย์

เลือดกำเดาไหลส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง หากมีเลือดกำเดาไหลออกมามากกว่าปกติ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงที่ซับซ้อน ส่งผลให้ต้องมีการเข้าปรึกษากับทางแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด ซึ่งสามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้

-เลือดกำเดาไหลไม่หยุดเกินกว่า 5-10 นาที

-เลือดไหลออกมาเป็นลิ่มเลือด

-ตัวซีด ปากซีด มีอาการหน้ามืด เวียนหัว คล้ายจะเป็นลม

-สำลักหรืออาเจียนออกมาเป็นเลือด

-ชีพจรเต้นเร็ว หายใจลำบาก

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

-นั่งหลังตรงโค้งตัวมาข้างหน้าเพียงเล็กน้อย ป้องกันไม่ให้เลือดไหลลงไปในคอและปอด เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสให้เลือดเข้าไปปิดกันทางเดินหายใจและเกิดอาการสำลักได้

-ใช้มือบีบปีกจมูกทั้ง 2 ข้างประมาณ 5 นาที จนกว่าเลือดจะหยุดไหลและหายใจทางปากแทน

-หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ แคะจมูก การยกของหนัก เนื่องจากจะทำให้เลือด

-ประคบเย็นด้วยผ้าห่อน้ำแข็งที่บริเวณหน้าผากและดั้งจมูก

-หลีกเลี่ยงการยัดกระดาษทิชชูเข้าในรูจมูกเพื่อหยุดเลือด เนื่องจากโพรงจมูกจะเกิดแผลเมื่อดึงกระดาษทิชชูออก ทำให้เลือดไหลซ้ำ

-หากเลือดหยุดไหลแล้วให้นอนพักและยกหัวสูงขึ้น

-สังเกตอาการไม่ให้มีการช็อกหรือหมดสติ

วิธีการรักษา เมื่อมีอาการ เลือดกำเดาไหล รุนแรง

กรณีที่ผู้ป่วยมีเลือดกำเดาไหลเป็นระยะเวลานานต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลป้องกันภาวะช็อกหมดสติจากการสูญเสียเลือด และให้แพทย์ประเมินอาการรวมไปถึงวิธีการรักษา ดังนี้

-ใช้ยาหดหลอดเลือดสอดเข้าที่โพรงจมูก เพื่อให้เส้นเลือดในเยื่อบุจมูกหดตัวลง เลือดออกลดลง ลดอาการบวม จนแพทย์สามารถประเมินอาการและค้นหาตำแหน่งที่เลือดออกได้

-จี้จุดเลือดออก จะเป็นการรักษาโดยการใช้สารเคมีหรือพลังงานความร้อน เพื่อห้ามเลือดโดยแพทย์จะมีการให้ยาชาเฉพาะที่ก่อนการรักษา

-ปรับยาหรือสั่งยาใหม่ ผู้ป่วยที่มีการรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด แพทย์จะมีการพิจารณาปรับยาหรือสั่งยาใหม่เพื่อช่วยให้เลือดแข็งตัว

วิธีป้องกัน

-ไม่แคะ แกะ หรือสั่งน้ำมูกอย่างรุนแรง

-ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณจมูก ศีรษะ หรือใบหน้า

-หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีควันบุหรี่ สารเคมี หรือฝุ่นละออง

-ใช้น้ำเกลือหยอดจมูกป้องกันเยื่อบุโพรงจมูกแห้ง

-พักผ่อนให้เพียงพอ

เลือดกำเดาหรือภาวะเลือดออกทางโพรงจมูกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เองที่บ้าน หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เลือดกำเดา ไหลออกมาเป็นปริมาณมากและมีระยะเวลานาน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

ผศ.ดร.พญ.เดือนธิดา ทรงเดช

สาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล