"ปิยรัฐ"เผยอนุ กมธ.ปฏิรูปตำรวจเล็งแก้ ป.วิอาญา

2024-05-28 18:27:29

"ปิยรัฐ"เผยอนุ กมธ.ปฏิรูปตำรวจเล็งแก้ ป.วิอาญา

Advertisement


"ปิยรัฐ"เผยอนุ กมธ.ศึกษาการปฏิรูปตำรวจเล็งแก้ ป.วิอาญา ให้อัยการออกความเห็นร่วมก่อนศาลออกหมาย  

เมื่อวันที่ 28  พ.ค.67 ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.  พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูประบบราชการตำรวจ ในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมอนุฯ เพื่อพิจารณา 2 วาระสำคัญในวันนี้ว่า วาระแรกคือการพิจารณาสภาพปัญหาและแนวทางในการปฏิรูปกระบวนการสอบสวนและดำเนินคดีผู้ต้องหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย กมธ. เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ได้แก่ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (สภ.) ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี และผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทลุง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนและหัวหน้าสถานีตำรวจ

นายปิยรัฐ กล่าวว่า เหตุผลที่เชิญ สภ. เนื่องจากใน กมธ. มีตำรวจที่เติบโตมาจากตำรวจนครบาลอยู่มาก จึงต้องการรับฟังความเห็นจากตำรวจฝั่ง สภ. ให้เกิดความรอบด้าน เพราะงานสอบสวนเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำซึ่งคือตำรวจ หากการสอบสวนมิชอบตั้งแต่ต้น อาจทำให้คนที่ทำถูกต้องกลายเป็นคนผิดหรือเกิดคดีแพะ จำนวนมาก จึงต้องการให้กระบวนการต้นน้ำตรวจสอบได้อย่างที่ควรเป็น ในอดีตการเลื่อนชั้นยศของพนักงานสอบสวนจะเกิดขึ้นในสายของพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่สามารถโยกย้ายข้ามสายได้ แต่ปัจจุบันทำได้ ส่งผลให้ตำรวจหลายคน ต้องการย้ายตำแหน่งมาเพื่อรอเติบโต ไม่ได้มาเพื่องานสอบสวนจริงๆ จึงเกิดปัญหาตามมา

นายปิยรัฐ กล่าวต่อ วาระที่ 2 มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อตรวจสอบและร่างกฎหมาย ให้ทันสมัย อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน โดยข้อที่อนุ กมธ. เสนอให้แก้ไขปรับปรุงคือมาตรา 57 เดิมตำรวจหรือพนักงานสอบสวนสามารถขอออกหมายจับหรือหมายเรียกได้ ส่วนศาลก็ใช้ความเชื่อมั่นในกระบวนการของตำรวจ อนุญาตออกหมายตามที่ตำรวจขอ อาจไม่ได้ใช้เวลามากนักในการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตำรวจทำไป ทั้งที่ควรให้อัยการกลั่นกรองเสียก่อน ในร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาที่ กมธ. เสนอแก้ไข ได้เพิ่มข้อความว่า คดีอุกฉกรรจ์ ฆาตกรรม หรือคดีที่มีความสำคัญ ก่อนดำเนินการขอหมาย ต้องให้อัยการมีความเห็นด้วย ไม่ใช่ให้เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจดุลพินิจเท่านั้น เหมือนเป็นการตรวจสอบกันและกัน ป้องกันบางครั้งอาจเกิดการกลั่นแกล้ง อัยการจะสามารถแย้งได้