ลูกความร้องสอบมรรยาท “ทนายสงกานต์”

2018-03-30 15:30:22

ลูกความร้องสอบมรรยาท “ทนายสงกานต์”

Advertisement

ลูกความร้องสภาทนายความให้สอบมรรยาท “ทนายสงกานต์” อ้างจ้าง 3 ล้านเป็นทนาย แต่ให้ระบุในสัญญาเป็นที่ปรึกษา แถมไม่ค่อยมีเวลาให้  ขณะที่ทนายความฝั่ง“ทนายสงกานต์” แจงตอนนี้ลูกความตำเป็นจำเลย เพราะค้างค่าจ้างอีก 1 ล้าน ฟ้องศาลแพ่งเรียบร้อยแล้ว ยันทนายดังรับเป็นที่ปรึกษาคดีและได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว 



เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายสุวิจักขณ์ อัยยาพิสิฐ หรือ “ทนายเปล่ง” พร้อมนายพิสิฐ หล้าสุดตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทซี อินเตอร์เนชั่นแนลโฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นลูกความของทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงสภาทนายความ ให้สอบมรรยาท ทนายสงกานต์ โดยอ้างว่า ทนายชื่อดัง เรียกรับเงินค่าจ้าง 2 ล้านบาท โดยสัญญาจะช่วยเป็นทนายความให้ แต่กลับไม่ทำงาน และทิ้งคดี



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายพิสิฐ ผู้ร้อง เป็นผู้ประกอบการส่งออกสินค้าประมงไปต่างประเทศ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีคนร้ายปลอมแปลงแอบอ้างเป็นตัวบริษัทของตน และส่งของไม่มีคุณภาพส่งไปต่างประเทศ ซึ่งเกิดความเสียหายหลายพันล้านบาท จึงขอช่วยทนายสงกานต์ เข้ามาช่วยเรื่องคดี




"เราทราบว่าเขาเป็นทนายที่มีชื่อเสียง และมีประสบการณ์ในการทำคดี ก็คิดว่าต้องเลือกทนายที่มีประสบการณ์เข้ามาทำคดีให้กับเรา แต่ปัญหาคือ พอมาทำแล้ว ตกลงว่าจ้างกันที่ 3 ล้านบาท แต่ที่ตกลงจริงๆว่าจะขอรับแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้นเอง  เรามาเอะใจคือเราจ้างเขามาเป็นทนาย เราก็ถามว่าทำไมต้องเขียนเป็นที่ปรึกษา เพราะบริษัทเรามีที่ปรึกษาเยอะอยู่แล้ว และไม่ต้องมาจ้างเงินด้วย บริษัทเราถูกสวมสิทธิ์ ปัจจุบันเรื่องอยู่ที่อัยการรอส่งฟ้องอยู่ เราก็ถามความคืบหน้าคดีไปทางคุณสงกรานต์ที่เราว่าจ้าง แต่ทางโน้นก็ตอบเรามาว่าไม่มีหลักฐานเพิ่มเติมให้ผมมาเลย เขาก็บอกว่าเขาไม่ใช่พนักงานสอบสวน ก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะหาทนายที่มีความรับผิดชอบที่มีเวลามาทุ่มเทให้กับงานของเรา ก็เลยทำหนังสือบอกเลิกจ้างไป และขอเอกสารกลับคืนมาประมาณ 1,250 หน้า  ปัญหาคือเราติดต่อเขาไม่ได้ อ่านไลน์แต่ไม่ตอบ ส่งจดหมายไปก็ไม่รับ ก็เลยมาปรึกษากับทางสภาทนายความว่าจะทำอะไรได้บ้าง และจะพูดเรื่องสัญญาไม่เป็นธรรมด้วย ตกลงจ้างทนายทำไมต้องมาแปลงเป็นที่ปรึกษา เราก็คุยกันตลอดว่าทำไมต้องเป็นที่ปรึกษา เขาก็บอกเป็นรูปแบบของบริษััทเขา เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหา สุดท้ายก็มีปัญหาจนได้ เรื่องนี้ถ้าคนจ้างไม่พอใจที่จะจ้างต่อหรือคนทำงานไม่มีเวลาทำงานให้ ไม่จำเป็นต้องมาฟ้องร้องกันให้เสียเวลา ต้องใช้จิตสามัญสำนึกคิดเอง"นายพิสิฐ



ขณะเดียวกัน ทนายความฝั่งทนายสงกานต์ เดินทางมาเช่นกันเดียวกัน พร้อมชี้แจงว่า คดีนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องคดีก็ไม่ได้เงียบเฉย หรือไม่ยอมทำงานให้ตามค่าว่าจ้าง ตามที่ผู้ร้อง มาร้องเรียนแต่อย่างใด จึงขอความเป็นธรรมด้วย


"กรณีนี้ก่อนมาสภาทนายความ มีการแจ้งหมายให้นักข่าวทราบแล้วอ้างว่ามีการทิ้งคดี ในส่วนของไลน์ที่เผยแพร่กันไปหมด ตรงนี้เป็นการหมิ่นประมาททนายสงกานต์ เท่าที่ทราบทนายสงกานต์ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว สำหรับนายสุวิจักขณ์ันั้นเคย เป็นทีมงานของทนายสงกานต์วันนี้พาลูกความของทนายสงกานต์มาร้องที่นี่ ทั้งที่ทนายสงกานต์ช่วยเขามาเยอะ วันนี้น้องมาทำแบบนี้ถูกผิดให้สื่อใช้วิจารณญาณตัดสินเอง เรื่่องสัญญาจ้างนั้น ขอเรียนว่าเป็นการจ้างทนายสงกานต์เป็นที่ปรึกษาคดีและได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว ตอนนี้ทุกคดีอยู่ในชั้นอัยการ ทนายยังเข้าไปเป็นโจทก์ร่วมไม่ได้ ส่วนนี้มีการตกลง 3 ล้านบาท ทีนี้ปรากฎว่าจ่ายยังมาไม่ครบ จ่ายแค่ 2 ล้านบาท ที่อ้างว่ามีการส่งจดหมาย ให้ตรวจสอบว่าส่งไปที่ไหน ส่งที่ภูมิลำเนาทนายสงกานต์หรือไม่ เมื่อค้างค่าจ้าง 1 ล้านบาทก็มีการทวงกันและไม่ชำระ พอทวงไป ทางนายพิสิฐก็แจ้งว่ายกเลิกสัญญาจ้าง ทนายสงกานต์ก็ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งแล้ว ตอนนี้คุณพิสิฐไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่เป็นจำเลย คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่งธนบุรี  "ทนายความฝั่งทนายสงกานต์ กล่าว