กรมการแพทย์แนะแนวทางปฏิบัติหากมีเหตุโรงงานระเบิดในชุมชน เตือนผู้มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังผลกระทบเป็นพิเศษ
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมี ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และมีเสียงระเบิดเป็นระยะ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่แจ้งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลภาชี ไปจนถึงตลาดภาชี และบริเวณใกล้เคียง สวมหน้ากากอนามัย และออกมาอยู่ในที่โล่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย กระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชน จึงสั่งการให้กรมการแพทย์ให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ประชาชน เนื่องจากสารเคมีรั่วไหลมีอันตรายต่อชีวิต ได้แก่ มีอาการระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ ปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ มีผื่นคันและผิวไหม้ร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจมีสารก่อมะเร็ง โดยขึ้นอยู่กับชนิด ระยะเวลาและปริมาณสารเคมีที่สัมผัส อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วยเพื่อความปลอดภัย
ด้าน นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หากประชาชนประสบกับเหตุการณ์ใกล้เคียงกันนี้ มีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว ดังนี้ 1. ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด หากอากาศร้อนให้ใช้เครื่องปรับอากาศหรือพัดลมเพื่อบรรเทาแทน 2. พยายามอยู่แต่ภายในบ้าน หากต้องออกข้างนอก ให้อยู่ในที่โล่งและไกลห่างจากรัศมีควันและไอสารเคมี 3. ใส่หน้ากากชนิดมีไส้กรองหรือใช้หน้ากาก N95 และแว่นตาว่ายน้ำเพื่อป้องกันอาการระคายเคืองตา 4. หากมีโรคประจำตัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคปอด โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดและได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เนื่องจากสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้อาการของโรคประจำตัวกำเริบขึ้นได้ 5. หากมีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูกมาก หรือ ไอ หอบ เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ 6. ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด 7. ค้นหาเส้นทางและพาหนะที่ใกล้ที่สุด เพื่อไปหาความช่วยเหลือได้ 8. จดหมายเลขโทรศัพท์ผู้ช่วยเหลือและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และ 9. หลังเหตุการณ์ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพและติดตามการตรวจสุขภาพเป็นระยะตามที่แพทย์สั่ง
นพ.กิติพงษ์ พนมยงค์ หัวหน้ากลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์มีสถาบันอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ที่พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนที่ประสบเหตุและประชาชนในพื้นที่โดยรอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเกี่ยวกับสุขภาพที่ถูกต้อง โดยสามารถติดต่อประสานงานหรือขอข้อมูลได้ที่ 0-2517-4333