กมธ.แรงงานยันไม่เคยแต่งตั้งคณะทำงานเรียกรับเงินโรงงาน

2024-05-01 14:00:03

กมธ.แรงงานยันไม่เคยแต่งตั้งคณะทำงานเรียกรับเงินโรงงาน

Advertisement

กมธ.แรงงานแถลงยันไม่เคยแต่งตั้งคณะทำงานเรียกรับเงินโรงงาน ไซต์งานใน จ.ปราจีนบุรี   

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.67 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.)  ในฐานะประธาน กมธ.แรงงาน  ร่วมกับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส. ปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แถลงข่าวกรณีที่มีกลุ่มผู้แอบอ้างเป็นคณะทำงานของ กมธ.การแรงงาน  ลงพื้นที่เรียกรับเงินจากโรงงานและไซต์งานใน จ.ปราจีนบุรี

นายวุฒิพงศ์ ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 ผ่านมา ได้มีผู้แอบอ้างว่า กมธ. การแรงงาน ติดต่อเข้ามาที่สำนักงานจัดหางาน จ.ปราจีนบุรี เพื่อลงพื้นที่ก่อสร้างโรงงานของบริษัททุนจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องในวันนั้นเกิดความกังวล จึงโทรศัพท์ชวนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดลงพื้นที่ไปด้วย ซึ่งในวันนั้นผู้ที่แอบอ้างไม่ได้มีเอกสารอะไรมาจาก กมธ.การแรงงาน มีแต่บัตรผ่านเข้าออก อาคารรัฐสภาเท่านั้น ว่าเป็นผู้ติดตาม ส.ส.  ท่านหนึ่ง ภายหลังการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ราชการได้เชิญตัวผู้แอบอ้าง ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่

นายวุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. ตนได้ไปพบ 5 เสือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ากลุ่มผู้แอบอ้าง กมธ.การแรงงาน มีการให้เจ้าหน้าที่ราชการไปยืนเป็นแบล็คกราวน์ให้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับเจ้าหน้าที่ กลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย จึงร้องเรียนมาที่ตน และปรากฎว่าวันที่ 27 เม.ย. กลุ่มผู้แอบอ้างกลุ่มเดิมเกิดความชะล่าใจ ลงพื้นที่ไซต์งานก่อสร้างทางหลวงชนบท เราจึงซักซ้อมแผนกันคร่าวๆว่าจะบุกไปจับ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวอ้างชื่อ ส.ส.  คนเดิมกับวันที่ 24 เม.ย.67 โดยทุกคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ กมธ.การแรงงาน จากนั้นได้ควบคุมตัวกลุ่มคนแอบอ้าง ทั้งหมด 6 คน ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี แต่ใน 3 คนนั้นขับรถหนี

"คนกลุ่มนี้มักลงพื้นที่ไซต์งานที่มีขนาดกลางขึ้นไป มีคนงานประมาณ 10 คนขึ้นไป จะตระเวนไปก่อนว่ามีความผิดหรือไม่ โดยความเสียหายที่คนกลุ่มนี้ไปแอบอ้าง ข่มขู่ เรียกทรัพย์นั้น ได้เรียกรับเงินจำนวนนับหมื่นบาท ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ต้องตั้งคำถามว่าในความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเวลานี้ แล้วใช้เรื่องนี้หาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ บนความเดือดร้อนของประชาชน" นายวุฒิพงศ์ กล่าว

ด้านนายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า โชคดีที่เรามี  ส.ส. ที่มีความเอาใจใส่และติดตามรวดเร็ว ซึ่ง กมธ.แรงงาน  โดนแอบอ้างมาหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภาคตะวันออก พื้นที่ จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร ก็มีหลายคนไปแอบอ้าง ผมเรียนยืนยันว่า กมธ.แรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ไม่เคยมีหนังสือ ไม่เคยในการแต่งตั้งเป็นหน่วยลับ หน่วยเฉพาะกิจให้ไปตรวจสอบที่ไซต์งาน ไม่เคยมีหนังสือสักฉบับเดียวและบุคคลกลุ่มนี้ผมไม่เคยรู้จักและไม่ได้เป็น กมธ. ของคณะผม ผมฟังมา เป็นเพียงผู้ติดตามของ ส.ส.  ท่านหนึ่ง และอยู่ในคณะ กมธ.ชุดผม แต่ไม่ได้สอบถาม

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ตนได้เรียนต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงานเรียบร้อยแล้ว ได้รับแจ้งว่าอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย และไม่ใช่เป็นการกระทำโดยหน้าที่ของ  กมธ. ก็ต้องจัดการ เพราะจะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ไปไล่บี้ตบทรัพย์ จำนวนที่ได้มาก็หลายหมื่นบาท จึงต้องนำเรียนสื่อมวลชนไปให้บริษัทอื่นๆ และในพื้นที่ที่มีโรงงานแบบนี้ ถ้ามีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็น กมธ.การแรงงาน ก็ขอให้ตรวจสอบและแจ้งมายัง กมธ.การแรงงานด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวคือ ส.ส. คนหนึ่ง จะต้องมีการเรียกมาคุยหรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า จะต้องมีการสอบถาม แต่โดยส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งนี้ ยังตอบไม่ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องฟังหลายฝ่าย โดยตนก็รับปากแล้วว่าจะไปตรวจสอบโรงงานที่ จ.ปราจีนบุรี จะไปพบกับทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น ยังไม่ทราบตัวเลข แต่ได้รับทราบแล้วว่ามีบริษัทจ่ายไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 2 หมื่นบาท แต่มีบริษัทอีกบริษัทหนึ่งที่ใหญ่กว่า ยังไม่ทราบตัวเลขว่าจ่ายไปเท่าไหร่ เพราะตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และจะมีการเรียกประชุมเร็วที่สุดในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ซึ่งเราต้องฟังความจากทั้ง 2 ฝ่าย