“พรเพชร” ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว รอคำยืนยันว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วยตัวเอง หรือให้ประธาน สนช.ยื่น มั่นใจไม่กระทบโรดแม็ป
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 มี.ค. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า ได้รับหนังสือจากนายปรีชา วัชราภัย สมาชิก สนช. พร้อมคณะรวม 27 คน เพื่อขอให้ส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใน 2 ประเด็นคือ 1.การตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองของบุคคลที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และ2.การอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในการลงคะแนนเลือกตั้ง
นายพรเพชร กล่าวต่อว่า ตนได้ส่งหนังสือไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อแจ้งให้ทราบตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ และเพื่อสอบถามว่าได้นำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วหรือยัง ทั้งนี้ จะต้องรอหนังสือตอบกลับจากนายกฯ ก่อน ซึ่งหากหนังสือตอบกลับมาว่านายกฯ ยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ และจะไม่ยื่นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยตัวเอง ตนก็มีหน้าที่ส่งคำร้องของสมาชิก สนช.จำนวน 27 คนไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพ้นวันที่ 12 เม.ย.2561 โดยที่นายกฯ ไม่ได้ตอบกลับมานั้น ก็เท่ากับว่าหน้าที่ในการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นเป็นอันหมดไป
“สรุปคือนายกฯ มีอำนาจ แต่ไม่มีหน้าที่ ขณะที่ประธาน สนช.มีหน้าที่ แต่ไม่มีอำนาจ ดังนั้น ประธาน สนช.จะทำหน้าที่ได้ก็ต้องสอบถามผู้มีอำนาจในขณะนี้คือนายกฯ ก่อนว่าท่านจะใช้อำนาจนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประเด็นที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ก็จะมีผลเพียงให้ตัดมาตรานั้นออกไปเท่านั้น”ประธาน สนช.กล่าว
ต่อข้อถามว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นจะกระทบโรดแม็ปหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า จะกระทบกับโรดแม็ปก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนเต็มเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนตัวเห็นว่ากรณีการจัดเลือกตั้งภายใน 150 วันนั้นสามารถดำเนินการให้เร็วกว่านั้นได้ เช่น จัดการเลือกตั้งภายใน 120 วัน เพื่อชดเชยเวลาที่ศาลจะใช้ในการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สำหรับขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนคงจะต้องมีหนังสือไปถึงศาลอยู่แล้วว่า รัฐบาลและ คสช.มีความห่วงใยในเรื่องของโรดแม็ป จึงขอความกรุณาศาลพิจารณาโดยใช้เวลาที่ไม่กระทบโรดแม็ปมากนักด้วย