เลขาธิการ พท.เชื่อไม่เกิดแรงกระเพื่อมหลังปรับ ครม. เคารพกับการตัดสินใจ "ปานปรีย์"
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 67 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง ว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อมา เรื่องการพูดคุยไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเท่าไหร่ และเท่าที่ตนเข้าใจ นายกฯ ได้เชิญรัฐมนตรีที่จะถูกปรับเข้าและออก มาพูดคุยแล้วเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ก่อนที่จะมีการทูลเกล้าฯ แต่นายปานปรีย์ยังไม่ติดต่อมาที่พรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ระบุมีการวางตัวไว้แล้ว มีประวัติเป็นนักการทูต ในพรรคมีการคุยว่าเป็นใคร นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นอำนาจของนายกฯ โดยอำนาจ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าไปยุ่ง อยากให้เป็นดุลพินิจและการตัดสินใจของนายกฯ ต่อข้อถามว่า พรรคจะต้องมีการคุยกับนายปานปรีย์หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า คงต้องมีการพูดคุย อาจจะต้องเชิญมาเป็นที่ปรึกษา ต้องแล้วแต่นายปานปรีย์ด้วย ซึ่งนายปานปรีย์ก็ทำงานให้พรรคมามาก อยู่เบื้องหลังพรรคมาโดยตลอด พวกเราก็ให้ความเคารพกับการตัดสินใจของนายปานปรีย์อยู่แล้ว ต่อข้อถามถึงคุณสมบัติของ รมว.ต่างประเทศมีการมองว่าเป็นนายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่ากระเพื่อม พรรคการเมืองก็คือพรรคการเมือง เราทำหน้าที่ดูแลประชาชนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการวางรัฐมนตรีที่หลุดจากตำแหน่ง อย่าง ส.ส.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย อย่างไร เพราะมีกระแสข่าวว่าจะถูกวางตัวให้ไปช่วยงานสภาฯ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นปกติของการเมือง มีเข้าก็มีออก ด้วยความรักและเคารพ ทุกท่านที่เคยอยู่ตำแหน่งและออกมาไม่ใช่ที่สิ้นสุด รัฐบาลยังอยู่อีกนาน 3 ปี ยังมีการปรับเข้าออกได้เสมอตามที่นายกฯ เคยพูดเอาไว้ จริงๆ แล้วการทำงาน พวกผมเป็น ส.ส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นพ.ชลน่าน นายไชยา ก็เป็น ส.ส.เขต ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. อยู่แล้ว ก่อนที่จะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี ฉะนั้นคิดว่าการปรับตัวของพรรค ของทั้ง 2 ท่าน คงไม่มีอะไรที่ต้องปรับตัว เพราะหน้าที่หลักคือการเป็น ส.ส.ระบบเขตอยู่แล้ว