31 มี.ค.ฟันวินัยร้ายแรงจนท. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น

2018-03-28 17:05:30

31 มี.ค.ฟันวินัยร้ายแรงจนท. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น

Advertisement

รองอธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการ ระบุเตรียมฟันโทษวินัยร้ายแรง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 31 มี.ค. นี้ เล็งจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐป้องกันการทุจริต

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งในหลายจังหวัด ว่า ขณะนี้มีหน่วยงานที่ได้รับการตรวจสอบทั้งสิ้น 59 แห่ง พบไม่มีมูลการทุจริต 8 แห่ง คือ สิงห์บุรี สมุทรสงคราม ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สกลนคร นิคมสร้างตนเองลำน้ำอูน แพร่ ชัยนาท ส่วนอีก 30 แห่งกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่อีก 21 แห่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเชิงลึก และล่าสุดได้มีการเตรียมตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในอีก 6 แห่ง หลังจากพบการทุจริตแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ส่วนความคืบหน้าที่มีการย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตใน16 แห่ง จำนวน22 คน ให้มาปฏิบัติงานในส่วนกลางเพื่อดำเนินการสอบวินัยนั้น ขณะนี้ทางส่วนกลางได้ให้ทั้ง22 คนชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลเอกสาร และภายในวันที่ 31 มี.ค. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ที่ตรวจพบการทุจริต จะได้ข้อสรุปในการพิจารณาโทษทางวินัย และการกำหนดโทษที่ชัดเจนกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนที่ศูนย์เชียงใหม่ จะสามารถสรุปพยานหลักฐานได้วันที่31มี.ค. และกำหนดโทษผู้ที่กระทำผิดได้ในเดือนพ.ค.นี้ ส่วนรายชื่อข้าราชการซี 7และซี8 ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อให้รอสรุปผลในวันที่ 31 มี.ค.นี้ก่อน


นางสุจิตรา กล่าวต่อว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้มีการเตรียมมาตรการในการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับประชาชนในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในลักษณะนี้ขึ้นอีก คือจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเงินเพื่อพิจารณาเกณฑ์การจัดสรรเงินลงไปในพื้นที่ พร้อมกับการติดตามประเมินผลในทุกขั้นตอน และการสำรวจข้อมูลของประชาชที่ได้รับเงินอุดหนุนจากข้อมูลของผู้ที่ได้รับเงินสวัสดิการรัฐที่ทางรัฐบาลจัดสรรให้ ทั้งนี้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ จะเริ่มมีการจ่ายเงินอุดหนุนให้เป็นระบบที่ไม่ต้องสัมผัสเงิน เช่นการเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การโอนเข้าบัญชี การจ่ายเช็ค การใช้ระบบอีเพย์เมนต์ เพื่อลดการจ่ายเงินซึ่งหน้าให้น้อยลง แต่ต้องมีการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่เป็นกรณีไปเพราะประชาชนบางพื้นที่อาจยังเข้าไม่ถึงระบบนี้