นักวิชาการชี้ 4 จุดแข็ง กก.บห.ชุดใหม่ ภท. พรรคการเมืองอื่นประมาทไม่ได้
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ชุดใหม่ ที่เปลี่ยนมาเป็น "คนรุ่นใหม่ บ้านใหญ่" ว่า ถึงแม้ว่าจะถูกบางฝ่ายมองว่า เรื่องนี้ไม่น่าตื่นเต้น เพราะคนที่เข้ามาก็ลูกหลานบ้านใหญ่แทบทั้งนั้น ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีข้อสังเกตที่น่าสนใจทางรัฐศาสตร์ 4 ข้อ คือ
1.การให้บทบาทกับลูกหลานบ้านใหญ่ เป็นการต่อยอดจุดแข็งที่มีมาแต่เดิม อาทิ ระบบการดูแลพื้นที่ ซึ่งมีมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย รุ่นพ่อ รุ่นแม่ มารุ่นลูก ก็ได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้อย่างเต็มที่ เป็นการยึดกุมความได้เปรียบในทางการเมืองระยะยาวของพรรคภูมิใจไทย
2.เป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างตระกูลการเมือง
3.กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคภูมิใจไทย คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจทางการเมืองจริง มีประสบการณ์ทั้งในพื้นที่ ประสบการณ์การตรงจากครอบครัว เข้าใจการเมืองในความเป็นจริงและมีโอกาสทำงานในการเมืองระดับชาติในตำแหน่งต่างๆ มาก่อน ตรงนี้จะแตกต่างจากคนรุ่นใหม่ในหลายพรรคที่สนใจการเมือง แต่ไม่มีโอกาส ไม่มีประสบการณ์
4. กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ กก.บห.พรรคชุดใหม่ ของพรรคภูมิใจไทย นอกจากมีต้นทุนทางการเมืองจากการเป็นทายาทตระกูลการเมืองบ้านใหญ่ พบว่าทั้งหมดที่เข้ามาเป็นกรรมการบริหารมีประวัติการศึกษาในระดับสูง มีโปรไฟล์ ภาพลักษณ์ที่ดี เป็นต้นทุนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ ภาพจำใหม่ทางการเมืองของพรรค
"แน่นอนว่าพรรคภูมิใจไทย มีความพยายามในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในยุคที่ความเป็นสมัยใหม่ ความคิด แบบสมัยใหม่ แทรกซึมเข้ามาในสังคม การเปลี่ยนแปลงของพรรคภูมิใจไทย เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองอื่นประมาทไม่ได้ตรงนี้คือ การผสมผสาน ใหม่ เก่า เข้าด้วยกัน เอาจุดแข็ง และจุดเด่นของพรรคมาบวกกัน ทั้งนี้ความท้าทายต่อมา คือ NEW GEN ภูมิใจไทย จะขับเคลื่อนพรรคไปในทิศทางไหน จะผสมผสาน คนรุ่นหนึ่ง กับคนรุ่นหนึ่งอย่างไร และจะดำเนินนโยบายเชิงอุดมการณ์อย่างไร ตรงนี้ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม” นายโอฬาร กล่าว