"ธิษะณา" ร้อง กมธ.ทหารตรวจสอบผู้ช่วย ส.ส.ฆ่าตัวตาย

2024-03-21 00:30:07

"ธิษะณา" ร้อง กมธ.ทหารตรวจสอบผู้ช่วย ส.ส.ฆ่าตัวตาย

Advertisement


"ธิษะณา" ร้อง กมธ.ทหารตรวจสอบปมผู้ช่วย ส.ส.ฆ่าตัวตายในค่ายทหาร

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตระหว่างการรับราชการทหารเกณฑ์ของนายคมทัช พันฤทธิ์ อดีตผู้ช่วยหาเสียง

น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า  นายคมทัชซึ่งอยู่ระหว่างการรับราชการทหารเกณฑ์ได้กระทำการอัตวินิบาตกรรม เสียชีวิตในค่ายทหารของกองทัพบกแห่งหนึ่ง  ยังไม่ทราบรายละเอียดอย่างแน่ชัดว่าสาเหตุการตายเป็นเพราะอะไร จากสาเหตุดังกล่าว ตนเสียใจและกังวลใจต่อการตรวจสอบสาเหตุในการเสียชีวิต ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีเหตุจากแรงจูงใจอื่นที่ถูกกดดันหรือไม่ เนื่องจากตนและนายคมทัช ได้มีการติดต่อกันเป็นระยะ นายคมทัชได้เคยบอกกล่าวความรู้สึกทุกข์ และความยากลำบากในการรับราชการทหารอย่างต่อเนื่อง  จึงขอให้ประธานคณะกรรมาธิการ กิจการทหารได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยเสนอแนะว่า กองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องแสดงความจริงใจและความโปร่งใสโดยการเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพตาม ป.วิอาญา ต่อหน้าสาธารณะชน หรือต่อ กมธ.ทหาร และผู้บังคับบัญชาของนายคมทัช ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น รวมทั้งต้องเปิดเผยข้อมูลที่อาจเป็นแรงจูงใจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต กองทัพบกต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขรักษาสภาวะ หรือโรคทางจิตเวชที่เกิดจากการฝึกฝนและการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ  

นายธนเดช เพ็งสุข รองประธาน กมธ.ทหาร กล่าวว่า  หลังจากนี้  กมธ.จะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องที่ถูกตั้งข้อสังเกตอย่างชัดเจน และนำคำตอบมาสู่สังคมให้ได้  ผู้สื่อข่าวถามว่าที่กองทัพบกได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า มูลเหตุมาจากเรื่องชู้สาว  นายธนเดช กล่าวว่า  ตรวจสอบเอกสารของกองทัพบกที่ส่งมาให้ กมธ. แจ้งว่าพลทหารคมทัช  ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมวันที่ 19 มี.ค. โดยพบว่าเสียชีวิตในเวลา 08.20 น. โดยได้ระบุว่า มีแรงจูงใจจากเรื่องส่วนตัวกับแฟนสาว ซึ่งประเด็นนี้เป็นของกองทัพบก และยังมีหลายมุมมองมาก รวมถึงมุมมองจาก น.ส.ธิษะณา เช่นกัน แต่ทางกรรมาธิการไม่ทิ้งประเด็นใดเลย

ด้าน น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องพิจารณาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นความกดดันจากการต้องเข้าไปเกณฑ์ทหาร และการถูกบังคับต่างๆ ที่ตนได้เห็นข้อความที่น้องเล่าเรื่องราวประสบการณ์ในกองทัพด้วย หรืออาจมีปัญหาส่วนตัวซึ่งตนไม่อาจทราบได้ ไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ เพราะผู้เสียชีวิตไม่เคยได้พิมพ์ข้อความมา แต่ได้ส่งข้อความเรื่องความกดดันของผู้บังคับบัญชาที่กระทำต่อตัวเขามาอย่างต่อเนื่อง ข้อความที่ส่งมามีแต่เรื่องในกองทัพ ไม่มีประเด็นเรื่องส่วนตัว ตนจึงยังไม่สามารถพูดในประเด็นเรื่องส่วนตัวได้ ซึ่งเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน อาจจะทราบถึงเรื่องส่วนตัว ตนก็ไม่ทราบได้ และเป็นอำนาจหน้าที่ของ กมธ.ที่จะทำการสืบทราบความจริงต่อไป และอยากให้ผู้บังคับบัญชาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วย