กัมพูชาเปิดฉากแคมเปญ "เที่ยวเสียมราฐ 2024" ดึง นทท.เยือนนครวัด

2024-03-18 11:55:56

กัมพูชาเปิดฉากแคมเปญ "เที่ยวเสียมราฐ 2024" ดึง นทท.เยือนนครวัด

Advertisement

เสียมราฐ, กัมพูชา, 17 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันเสาร์ (16 มี.ค.) กัมพูชาเปิดตัวโครงการรณรงค์ “ท่องเที่ยวเสียมราฐ ปี 2024” (Visit Siem Reap 2024) ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังอุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือหมู่ปราสาทนครวัดมากขึ้น

ระหว่างงานเปิดตัวที่มีผู้เข้าร่วมหลายพันคนซึ่งจัดพร้อมกับพิธีเปิดเทศกาลแม่น้ำครั้งที่ 8 ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าโครงการรณรงค์ดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเสียมราฐ ในยุคหลังการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

“โครงการท่องเที่ยวเสียมราฐ ปี 2024 บวกกับปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีน-กัมพูชา 2024 และปีแห่งการท่องเที่ยวกัมพูชา-อินเดีย จะช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในเสียมราฐ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังกัมพูชามากขึ้น” ฮุนมาเนตกล่าว

นอกจากนั้น ฮุนมาเนตระบุว่าท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ที่ลงทุนโดยจีน ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีส่วนช่วยเกื้อหนุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังอุทยานฯ และพื้นที่อื่นๆ ของกัมพูชา

ฮุนมาเนตยังสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยว หน่วยงานท้องถิ่น และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการข้างต้นด้วย

ด้าน สก โสเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ระบุว่าโครงการรณรงค์ดังกล่าวจะอัดฉีดแรงผลักดันใหม่ให้กับภาคการท่องเที่ยวท้องถิ่น และเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเสียมราฐ

จังหวัดเสียมราฐเป็นที่ตั้งของอุทยานโบราณคดีอังกอร์ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 1992 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา โดยเป็นที่ตั้งของวัดโบราณ 91 แห่งที่ก่อสร้างระหว่างศตวรรษที่ 9-13

อังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) ระบุว่าอุทยานฯ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 800,000 คนในปี 2023 สร้างรายได้จากการขายบัตรเข้าชม 37.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.32 พันล้านบาท) ทว่าตัวเลขนี้ยังถือว่าต่ำหากเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.2 ล้านคนเมื่อช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ในปี 2019 ซึ่งมีรายได้รวม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.54 พันล้านบาท) จากการจำหน่ายบัตรเข้าเยี่ยมชม