"ชัยธวัช" นำทีมฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายรัฐบาลชี้ 6 เดือนล้มเหลว ไม่จริงใจกับประชาชน ละเลยคำสัญญาแก้ปัญหาหนี้สิน ทำลายความเชื่อมั่น ปล่อยมาเฟีย ข้าราชการแสวงหาประโยชน์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค.67 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายวันนอร์ กล่าวว่า จะนำรายชื่อและญัตติให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง และประเมินวันและเวลาชัดเจนต่อไป จากนั้นก็จะหารือกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามสภามีเวลาจำกัดเนื่องจากจะมีการประชุมถึงวันที่ 9 เม.ย.นี้ จึงคาดว่าเบื้องต้นน่าจะมีการอภิปรายในช่วงต้นเดือนเม.ย ส่วนจะกี่วันขึ้นอยู่กับการรือของวิปทั้งสองฝ่าย โดยต้องพิจารณาเนื้อหาสาระของญัตติที่อภิปรายเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชน เท่าที่ทราบรัฐบาลก็อยากให้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนเม.ย.ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภานี้เพราะฝ่ายรัฐบาลเองก็พร้อมที่จะมาตอบวุฒิสภาอยู่แล้ว
ด้านนายชัยธวัช แถลงว่า วันนี้พวกเราพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง5พรรคได้ยื่นญัตติขออภิปรายตามมูลมาตรา 152 แก่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเนื้อหาของญัตติดังนี้ คณะมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า6เดือนแล้วแต่มิได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชนไม่จริงใจไม่ตั้งใจเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริงการดำเนินการของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาไม่ว่าจะการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นที่ต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศล้วนขาดยุทธศาสตร์ และการปฎิบัติที่ตรงเป้าหมาย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเกิดการคอรัปชั่นเชิงนโยบายแทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรมกลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาค เท่าเทียมทางกฎหมาย และการไม่จริงใจต่อการ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ การดำเนินนโยบายต่างประเทศยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้
"หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรมและไร้วุฒิภาวะต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จากสถานการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้นจึงจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ดังนั้น ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่น้อยกว่าหนึ่งใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152"นายชัยธวัช กล่าว