กรมศุลฯ ค้านปล่อยรถเมล์เอ็นจีวี เบสท์รินยื่นคำร้องคุ้มครอง

2017-03-01 09:42:54

กรมศุลฯ ค้านปล่อยรถเมล์เอ็นจีวี เบสท์รินยื่นคำร้องคุ้มครอง

Advertisement

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยกรณีที่ศาลพัทยาสั่งคุ้มครองรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี)  จำนวน 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่บริษัทซุปเปอร์ซาร่า นำเข้าและสำแดงเป็นเท็จ ได้ยื่นฟ้องศาลฯ ขอนำรถล็อต 99 คัน ออกมาได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ 2 เท่า เมื่อวัน 24 ก.พ.60 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.60 ที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้ยื่นคัดค้านและศาลได้พิจารณาและยกเลิกคำสั่งคุ้มครองแล้ว ทำให้การนำรถเมล์เอ็นจีวีที่สำแดงเท็จ 99 คัน ที่เหลืออยู่ต้องจ่ายภาษี 40% และค่าปรับ 2 เท่า ถึงจะนำรถออกไปได้

นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร เผยว่า บริษัทซุปเปอร์ซาร่า ยังไม่ได้ขอนำรถเมล์เอ็นจีวีที่สำแดงเท็จออกจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งการนำออกจะต้องวางประกันภาษีและค่าปรับ 2 เท่า ให้ครบถ้วน โดยที่ผ่านมากรมศุลกากรได้สั่งคดีนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีล๊อตแรก 1 คัน ที่บริบริษัท ซุปเปอร์ซาร่าเป็นผู้นำเข้ามีความผิดสำแดงเท็จเลี่ยงภาษี และจะทยอยสั่งคดีให้ครบทั้งหมด 489 คัน เพราะกรมศุลกากรมีหลักฐานชัดเจนว่ารถทั้งหมดมีการสำแดงเท็จไม่ได้เป็นรถที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซียตามที่ผู้นำเข้าสำแดง แต่เป็นรถสำเร็จรูปที่ขนออกมาจากประเทศจีนไปพักไว้ที่ประเทศมาเลเซียและส่งมาที่ประเทศไทย

ด้านบริษัทซุปเปอร์ซาร่า ได้ตอบกลับมาว่าได้นำเข้าถูกต้อง ซึ่งเท่ากันว่าไม่ยอมความในชั้นการพิจารณาศุลกากร ทางกรมศุลกากรจะรอสั่งคดีรถทั้งหมด และส่งฟ้องศาล หากศาลเห็นว่าผู้นำเข้ามาความผิดจะทำให้ผู้นำเข้าต้องเสียค่าปรับ 4 เท่าของราคาสินค้ารวมอากร ซึ่งรถเมล์เอ็นจีวีเสียภาษีนำเข้า 40% หรือ 1.24 ล้านบาท หากรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต 7% ค่าอากรภาษีจะอยู่ที่คันละ 1.45 ล้านบาท




ทั้งนี้ นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธาน บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปจำกัด เผยว่า บริษัทฯ กำลังพิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมที่กรมศุลกากรไปยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อเตรียมข้อมูลไปยื่นคำร้องต่อศาลฯ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองเรื่องดังกล่าวใหม่ภายใน 1-2 วัน