ส.ว.ตำหนิรัฐบาลดึงเกมยื้อเวลาซักฟอก เหน็บ "พรเพชร" เอาใจัฐบาลเกินไปไม่บรรจุวาระเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.67 ที่รัฐสภา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและ การมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตอบรับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ในช่วงหลังวันที่ 15 มี.ค.นี้ เป็นกรอบเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ ว่า ความเห็นส่วนตัว อยากจะตำหนิรัฐบาลว่าการใช้สิทธิของวุฒิสภา เพื่อเปิดอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล และประชาชน เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุอยู่ในมาตรา 171 ถ้าท่านจะปฎิเสธการทำหน้าที่ของวุฒิสภา โดยเห็นว่าการทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารและทำตามนโยบายอื่นๆ สำคัญกว่าเรื่องนี้ ตนคิดว่าน่าจะไม่ถูกต้อง ละเลยความสำคัญของการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องมาชี้แจงทั้งคณะร้ฐมนตรี (ครม.) ขอเรียนว่า เรื่องที่เราเปิดอภิปรายทั้ง 7 ประเด็น นานวันเข้าข้อมูล ข้อเรียกร้อง ข้อสงสัยมากมายของประชาชนได้เกิดขึ้น ถ้าปล่อยให้มีการดำเนินการในบางเรื่อง อาจจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างแก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้นวุฒิสภาเห็นว่ามีเรื่องที่สำคัญเพียงพอที่จะเปิดอภิปราย มีความสุกงอมมากพอและจำเป็นต้องเท่าทันกับห้วงเวลาที่จะเกิดปัญหา เรามีเหตุมีผล เรายกร่างหนังสือมาและทำตามเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ดังนั้นการที่รัฐบาลจะมาตอบเราปลายเดือน มี.ค.เป็นต้นไปหรือปล่อยให้เราหมดวาระการดำรงตำแหน่งนั้น ไม่ควรกระทำ เพราะเป็นการละเลยการทำหน้าที่ที้ดีของรัฐบาลของประชาชน
เมื่อถามว่า ส่วนจะถูกมองว่าเป็นการดึงเวลา เพื่อให้กระแสเบาลงไปหรือไม่นั้น นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเหตุผลที่ประชาชนคลางแคลงสงสัยเหมือนกัน การดึงเวลาไว้ ไม่ได้มีประโยชน์ต่อรัฐบาลเลย มีแต่ผลเสีย เพราะเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาและตัวแทนของประชาชน ดังนั้นเมื่อวุฒิสภาทำหน้าที่เหล่านี้ รัฐบาลต้องวางเรื่องอื่น รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ และมาตอบ แถลงข้อเท็จจริง แถลงปัญหา ข้อจำกัด เพื่อหาวิธีการจัดการกับเรื่องที่รัฐบาลจะขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ต่อข้อถามถึง เวลาที่ให้รัฐบาลอภิปรายนั้น นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ตามที่ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไป คือ 2 วัน ได้แก่วันจันทร์และวันอังคารในเดือนก.พ. ซึ่งก็มีหลายสัปดาห์ ดังนั้น ท่านจะต้องยินยอม พร้อมใจ หาวันให้เรา บรรจุลงระเบียบวาระ แต่ถ้าท่านละเลยหรือให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยไปหน่อย ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าตำหนิหากท่านเห็นว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าแล้วให้เวลาเราปลาย มี.ค. ซึ่งท่านก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ เป็นเพียงข่าวจากแกนนำของรัฐบาล ไม่ได้ให้ตามคำขอของเรา ถ้าเกิดท่านติดภารกิจอีก มันจะไปเดือนเม.ย.ใช่หรือไม่ อย่างไร ถ้าไป เม.ย. แล้วเปิดไม่ได้ ปิดสมัยประชุม ก็จะเป็นวิธีการที่ไม่ต้องมาอธิบายเลยใช่หรือไม่
เมื่อถามถึง กรณีที่ประธานวุฒิสภา ยังไม่บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องเร่งด่วน นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ตนจะถามนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เหมือนกันว่าทำถึงยอมให้รัฐบาลเขาต่อรองเราได้ เพราะเรากำหนดไปแล้ว หากเขาไม่มา เราก็อภิปรายข้างเดียวไปเลย หากรัฐบาลไม่มา ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องอย่างนี้ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้ เพราะระบบรัฐสภาไปไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องมาแถลงข้อเท็จจริง ชี้แจงข้อขัดข้อง และคำถามที่วุฒิสภาแจ้งไปแล้ว