"ก้าวไกล" หนุนยกเลิก "ครูเวร" ทำเป็นเอกสารให้ชัด

2024-01-24 12:57:05

"ก้าวไกล" หนุนยกเลิก "ครูเวร" ทำเป็นเอกสารให้ชัด

Advertisement

 "ก้าวไกล" หนุนยกเลิก "ครูเวร" ทำเป็นเอกสารให้ชัด เหตุคำสั่งการนายกฯลบล้างมติ ครม.ไม่ได้  ส่วนการเพิ่มภารโรง แนะตั้งเป็นงบประจำ ไม่ใช่ใช้งบกลางตลอด

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 67  ที่รัฐสภา นายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคระกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ยกเลิกครูเวร พร้อมกับให้มีการจ้างภารโรงว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายตั้งแต่ช่วงหาเสียงว่าเราจะเลิกให้ครูนอนเวรทันที หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามขอขอบคุณรัฐบาลที่หารือในเรื่องนี้ และขอแสดงความยินดีกับเพื่อนครูทั่วประเทศ ที่ไม่ต้องไปลำบากเสี่ยงภัยและเหนื่อยล้ากับการเข้าเวร แต่สิ่งที่ตนพบจากการได้ตรวจสอบรายงานการประชุมครม.เมื่อวันที่ 23 ม.ค.นี้ เราไม่พบว่ามีวาระนี้ปรากฏในเอกสารและไม่พบว่ามีมติการประชุมเราจึงมีข้อสงสัยว่าเป็นเพียงการสนทนาพูดคุยกัน และเห็นดีเห็นงามกันหรือไม่ เพราะไม่มีเอกสารบรรจุในวาระการประชุม ไม่มีบันทึกการประชุม ซึ่งเป็นเพียงคำปรารภหรือคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี หรือรมช.ศึกษาธิการจะไปลบล้างหรือไปยกเลิกมติครม.เดิมได้หรือไม่

นายสุรวาท กล่าวต่อว่า หากเรื่องนี้ไม่มีการเสนอเข้าที่ประชุมครม.และไม่มีในการวาระการประชุม ไม่มีมติก็ให้รัฐบาลรีบดำเนินการ เพราะเมื่อมีมติออกมาแล้วจะต้องแก้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติด้วย เพราะคำปรารภหรือข้อสั่งการของนายกฯไม่อาจจะไปล้มล้างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีหรือมติครม.ได้ เพราะเป็นความเห็นของนายกฯคนเดียว ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้พบอยู่บ่อยๆ ที่นายกฯพูดแล้วจนทำให้มีวาทะกรรมหนึ่งที่บอกว่า คิดใหญ่แต่ทำเล็ก แต่เรื่องนี้เราหวังว่าจะพูดใหญ่ทำใหญ่ จึงสนับสนุนให้มีการยกเลิกและให้มีการบริหารจัดการ และให้เทคโนโลยีเข้ามา หรือบุคคลกรที่มีความพร้อมที่จะเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย เช่น ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะต้องเป็นไปด้วยความพร้อมทั้งหมด

“หลังจากที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าจะยกเลิกครูเวร ก็มีแต่ความว้าวุ่นสับสนเต็มไปหมด เพราะมีเพื่อนครูหอบเสื่อ หอบหมอน หอบเตาปิกนิกจะไปนอนโรงเรียน แต่เมื่อมีข่าวออกมา ทำให้ครูสับสนว่าจริงหรือเปล่าเพราะตามข่าวยกเลิกทันที แต่ ผอ.บอกว่ายัง เพราะต้องรอหนังสือก่อน แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่ยกเลิกไปเลย ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลจะต้องทำ ให้เกิดความชัดเจน” นายสุรวาท กล่าว

นายสุรวาท กล่าวต่อว่า ส่วนการเพิ่มนักการภารโรงนั้น ปัจจุบันมีภารโรงประมาณ 1 หมื่นโรงเรียนที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 9 พันบาท ซึ่งต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ หากจะเพิ่มภารโรงก็ต้องเพิ่มอีก 1.2 หมื่นแห่ง โดยที่กระทรวงศึกษาธิการจะของบกลางมาจ้างภารโรงให้ครบทุกโรงเรียน แต่ภารโรงถือเป็นคนละเรื่องกับเวรยามในการรักษาความปลอดภัย เพียงแต่ภารโรงอาจจะเกื้อกูลทำหน้าที่เวรช่วยครูได้ ซึ่งตนก็เห็นด้วยที่จะมีภารโรงทุกโรงเรียน และเห็นด้วยที่จะใช้งบกลางของปี 2566 โดยใช้เงินจำนวน 1,140 ล้านบาท ในการจ้างภารโรงด้วยอัตราเดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลเห็นว่าควรจะต้องตั้งงบประมาณส่วนนี้ไว้ในงบประมาณปี 67 และ 68 แต่ในร่างงบประมาณปี 67 ที่กำลังพิจารณาอยู่นั้นไม่มีงบประมาณในการจ้างภารโรงอยู่ จึงขอเรียกร้องว่า ให้แปรญัตติงบส่วนนี้ในปี 67 เพื่อมาจัดจ้างภารโรงให้ครบตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 - 30 ก.ย. 68 และกระทรวงศึกษาธิการก็นำงบส่วนนี้ไปใส่ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ทางสำนักงบประมาณกำลังจัดทำอยู่ ไม่ใช่พอคิดได้แล้วจะเอาไปใส่ทีหลัง เพราะเรื่องนี้ควรเป็นงบประจำ