"รอยช้ำ" สัญญาณเตือนบอกโรค

2024-01-12 13:00:34

"รอยช้ำ" สัญญาณเตือนบอกโรค

Advertisement

"รอยช้ำ" สัญญาณเตือนบอกโรค

รอยช้ำ จ้ำเลือด อาการที่เกิดขึ้นตามผิวหนังของร่างกาย โดยส่วนใหญ่มักเกิดตามหลังการกระทบกระแทก เช่น ชนสิ่งของ หกล้ม บางครั้งอาจมีอาการกดแล้วเจ็บร่วมด้วย อย่างไรก็ตามในผู้สูงอายุอาจพบรอยช้ำตามหลังการกระทบกระแทกที่ไม่รุนแรงได้ ซึ่งเกิดจากผิวหนังที่บางเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นร่วมกับความเปราะบางของเส้นเลือดฝอย อย่างไรก็ตามรอยช้ำที่เกิดขึ้นผิดปกติอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่างได้

รอยช้ำเกิดจากอะไร

รอยช้ำเป็นการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังที่เกิดขึ้นจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตก และมีเลือดสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยช้ำขึ้นมา ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์

สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยช้ำ

-การกระแทกอย่างรุนแรง เช่น ตกบันได เจาะเลือด หรือชนขอบโต๊ะ

-ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยากลุ่มสเตียรอยด์

-ขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น วิตามินซี

-อายุเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังมีความบอบบาง

-ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับวายหรือไตวายเรื้อรัง

-การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัสเดงกี

-เกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ

-มีความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด

รอยช้ำ อันตรายมากแค่ไหน

ส่วนใหญ่รอยช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทกหรืออุบัติเหตุจะสามารถหายเองได้ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ จึงไม่มีความอันตราย

รอยช้ำแบบไหนที่ควรเข้ารับการตรวจรักษา

หากรอยช้ำที่เกิดขึ้นไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ หรือรอยช้ำที่มีขนาดใหญ่ เกิดบริเวณหลายตำแหน่งในร่างกาย คลำได้เป็นก้อนใต้ผิวหนัง เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจมีเลือดออกผิดปกติบริเวณอื่นร่วมด้วย หรือมีอาการร่วมอื่น ๆ  เช่น ไข้สูง อ่อนเพลีย เจ็บบริเวณรอยช้ำเพิ่มมากขึ้น อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน วินิจฉัย และทำการรักษาต่อไป

รอยช้ำเสี่ยงโรคอะไรบ้าง

-รอยช้ำที่เกิดขึ้นในบางครั้งอาจเป็นอาการที่บ่งบอกโรคหรือภาวะผิดปกติของร่างกายบางอย่างได้ โดยเฉพาะโรคในระบบเลือด หรือหลอดเลือด โดยโรคที่อาจเป็นไปได้ เช่น โรคเกล็ดเลือดต่ำ หรือมีภาวะเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ

-ภาวะไขกระดูกทำงานบกพร่อง

-โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

วิธีรักษารอยช้ำเบื้องต้น

รอยช้ำที่เกิดขึ้นหากมีอาการที่ไม่รุนแรงหรือผลข้างเคียงเกิดขึ้นสามารถรักษารอยช้ำเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ดังนี้

-ประคบเย็น รอยช้ำที่เกิดภายใน 48 ชั่วโมงแรก จากการกระทบกระแทกควรประคบเย็นทันที โดยเอาน้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกห่อด้วยผ้า แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีรอยช้ำอย่างน้อย 20 นาที เนื่องจากความเย็นจะทำให้เลือดใต้ผิวหนังมีความแข็งตัว

-ประคบร้อน เมื่อระยะเวลาผ่านไป 2 วัน หลังจากการเกิดรอยช้ำสามารถประคบร้อนได้ โดยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาประคบในบริเวณที่มีรอยช้ำครั้งละ 10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้เลือดมีการไหลเวียนได้ดีขึ้นทำให้รอยช้ำหายเร็ว

-รับประทานยาแก้ปวด หากผู้ป่วยมีอาการปวดร่วมด้วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ เช่น ยาพาราเซตามอล

รอยช้ำที่เกิดขึ้นตามร่างกายอาจมีสาเหตุที่แน่ชัด เช่น การกระทบกระแทกสิ่งของหรือการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งสามารถรักษาหายได้ด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและหายเองได้โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามหากรอยช้ำที่เกิดเป็นมากขึ้น หรือมีความผิดปกติร่วมดังที่กล่าวข้างต้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ผศ.พญ.กชวรรณ บุญญวัฒน์

สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล