"เลิศศักดิ์" จี้สรรพากรร้อง ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนท.ร่ำรวยผิดปกติ

2024-01-10 22:31:03

"เลิศศักดิ์" จี้สรรพากรร้อง ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนท.ร่ำรวยผิดปกติ

Advertisement

"เลิศศักดิ์" จี้กรมสรรพากรร้อง  ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนท. 4 รายร่ำรวยผิดปกติ

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.67 ที่รัฐสภา  นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (กมธ.ปปง.)สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมพิจารณาติดตามความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรร่ำรวยผิดปกติจากการทุจริตยักยอกเงินคืนภาษีอาการในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ  โดยเชิญผู้แทนจาก ป.ป.ช.กรมสรรพากร เข้าชี้แจงประกอบด้วย นายสุกฤษฎิ์ เทียงแก้ว ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรปราการ นายรัฐพล บุญถูก พนักงานไต่สวนระดับสูง  น.ส.ฐปกรณ์ แสนพล พนักงานไต่สวนระดับกลาง และ นายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมสรรพากร นายอภิชัย ศรีโต นิติกรชำนาญการพิเศษ นายเสกสรร ประเสริฐศรี นิติกรชำนาญการพิเศษ  นายกาญจน์ สุขสีทอง นิติกรชำนาญการ


ทั้งนี้ ป.ป.ช. ที่ตรวจพบยอดเงินในบัญชีเงินฝากของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จ.สมุทรปราการ ถูกชี้มูลความผิดกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สรรพากร รวม 4 ราย ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฏหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เป็นเงินจำนวนรวมกว่า 2,085 ล้านบาท จาก 8 บัญชีที่ถูกตรวจพบ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงในคดีนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข 160 ล้านบาท ตามที่กรมสรรพากรให้ข้อมูลกับทาง กมธ.ป.ป.ง.ในที่ประชุมนี้ จนมีข้อสงสัยว่าจะมีบุคคลที่สามหรือบุคคลที่มีตำแหน่งสูงกว่านี้อยู่เบื้องหลังหรือไม่

นายเลิศศักดิ์  กล่าวว่า กรณีนี้ กมธ.ป.ป.ง. ได้รับรู้จากข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อมวลชนในหลายแขนง การชี้แจงข้อมูลยังติดขัดหลายประเด็น โดยเฉพาะในส่วนของกรมสรรพากร ซึ่งสรุปยอดเงินคงค้างผู้ประกอบการที่ขอคืนภาษีเพียง 160 ล้านบาท และการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ 4 รายนี้ ก็เป็นลักษณะของการหมุนเงินเท่านั้น ขณะที่ ป.ป.ช. สรุปยอดเงินจาก 8 บัญชี มีความเสียหายรวมกว่า 2,085 ล้านบาท  และผู้ทุจริตก็ยังไม่สามารถชี้แจงเหตุนี้ได้จึงได้ขอให้ทางกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ โดยเฉพาะอธิบดีกรมสรรพากร ร้องไปยัง คณะกรรมการ ปปง.ให้ตรวจสอบตามกฏหมายฟอกเงิน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาทนี้เพราะ กมธ.ป.ป.ง. ไม่เชื่อว่าจะมีแค่เพียงการยักยอกเงินภาษี แต่อาจจะมีการฮั้วกับผู้ประกอบการหรือไม่ที่อาจจะมีบุคคลที่ใหญ่กว่านี้อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ เพื่อให้ชัดแจ้งที่มองไปถึงกระบวนการควบคุมป้องกันความเสียหายต่อไปในอนาคต


“กมธ.ปปง.ขอเรียกร้องให้ อธิบดีกรมสรรพากร ส่งเรื่องนี้ไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ง. เพื่อเร่งติดตามเส้นทางการเงิน เพราะเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อจะได้รู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือมีขบวนการเครือข่ายอีกหรือไม่ ที่ถึงแม้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะชี้มูลและดำเนินคดีไปแล้วอาจจะมีความล่าช้า ซึ่ง กมธ.ปปง. จะติดตามเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อความโปร่งใสและปกป้องเงินภาษีของแผ่นดินต่อไป” นายเลิศศักดิ์ กล่าว