ทั้งงง ทั้งตกใจ ! “ใหม่ สุคนธวา” รีบแจงอย่างไว หลังคนเข้าใจผิดคิดว่าเลิกสามี เหตุเพราะหน้าเหมือน “เป็กกี้ ศรีธัญญา” แถมยังถูกเอารูปไปประกอบคำพูดอีกฝ่าย
เรียกว่างานเข้าแบบงงๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับนางร้ายสาว “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร” ที่อยู่ๆ ก็ถูกคนเข้าใจผิดคิดว่าเลิกรากันกับสามี นั่นก็เพราะมีใบหน้าคล้ายกับพิธีกรสาวอารมณ์ดีอย่าง “เป็กกี้ ศรีธัญญา” ที่เพิ่งจะออกมาประกาศข่าวสุดช็อกส่งท้ายปีว่าได้เลิกรากับสามีรุ่นน้องไป
ซึ่งทางด้านสาวใหม่ที่ทั้งถูกนำภาพไปใส่ประกอบกับคำพูดของเป็กกี้ และโดนต่อว่าจากชาวเน็ตบางนั้นก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ ล่าสุด (29 ธ.ค. 2566) “ใหม่ สุคนธวา” ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า
“เดี๋ยวค่ะ! ไปกันใหญ่แล้ว ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ยินดีและดีใจนะคะ ที่มีคนเข้าใจผิด คิดว่าใหม่คือ "พี่เป๊กกี้" ดีใจที่หน้าเหมือนพี่ค่ะ (คนทักเยอะมากๆ) ใหม่ดีใจค่ะ เพราะพี่เป๊กกี้ เป็นผู้หญิงที่เก่งและสวยมาก แต่ต้องบอกกับทุกๆ คนก่อนค่ะ ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเข้าใจผิด ว่าสถานะของใหม่กับสามียังไม่ได้เลิกหรือหย่ากันนะคะ ปกติดีทุกอย่างค่ะ แต่ตอนนี้คนเข้าใจผิดเยอะมากๆ ว่าใหม่คือพี่เป๊กกี้ที่มีข่าวอยู่ช่วงนี้ และก็คอมเมนต์ 80% ในข่าว ว่าเป็นใหม่กันเยอะมากๆ บางคนก็เอารูปใหม่มาลง แต่แคปชั่นคำคมเป็นของพี่เป๊กกี้ แถมยังใส่เครดิตว่าใหม่เป็นคนพูด มันทำให้หลายคนสับสนและเข้าใจผิดไปมากๆ ค่ะ
คือ...ใหม่แค่หน้าเหมือนพี่เป๊กค่ะ แต่การที่จะลงข่าว ทำข่าวอะไร แล้วเอาคนนั้นมาผสมคนนี้ เพื่อให้คนอ่านงง เพื่อให้คนกดดู หรือมียอดวิว ยอดไลก์มากๆ แบบข้อมูลผิดๆ และทำให้คนตกใจ ใหม่ว่ามันไม่โอเคนะคะ! กลายเป็นว่า คนคิดว่าใหม่เลิกและหย่ากับสามีไปแล้วตอนนี้ ใหม่ยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่ที่รู้ เพราะ fc หลายคนส่งมาถามด้วยความเป็นห่วง เยอะมากๆ บ้างก็ด่าสามีใหม่บ้างล่ะ(เพราะเข้าใจผิดคิดว่าใหม่คือพี่เป๊ก) หรือด่าใหม่บ้างล่ะ...
เอาเป็นว่า ด้วยความเคารพและรักพี่นักข่าวทุกๆ สำนัก ก่อนลงข่าว ใจเย็นๆ ตั้งสติ ค่อยๆ ลงรูปและค่อยๆ ลงแคปชั่นกันนะคะ ไม่รู้ว่าที่ทำคือตั้งใจหรือเจตนา เพื่อให้คนอื่นงง สับสน หรือเกิดจากความผิดพลาดจริงๆ เอาเป็นว่า ครอบครัวใหม่ตกใจค่ะ fc ใหม่ก็งง ตัวใหม่เอง เห็นยังงงเองเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ ย้ำ! ว่าใหม่ดีใจที่สวยเหมือนพี่เป๊กกี้นะคะ ที่ออกมาพูด ไม่ใช่รู้สึกไม่ดีที่หน้าเหมือนพี่เป๊กกี้ค่ะและ ใหม่ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่เป๊กกี้คนสวยด้วยนะคะ”
