ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี สรุปสถานการณ์การช่วยเหลือน้ำเข้าเรือโดยสาร นักท่องเที่ยว ลูกเรือ 102 ชีวิตถึงฝั่งปลอดภัย
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 น.อ.ณัฐพล สินพูลผล รอง ผอ.ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือโดยสาร ชื่อ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 หมายเลขทะเบียน 308400045 ขนาด 114.93 ตันกรอส เส้นทางสุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า จำนวนผู้โดยสารประมาณ 101 คน มุ่งหน้าไปยัง เกาะเต่าเกิดเหตุน้ำเข้าตัวเรือ ในระหว่างเรือเดินทางห่างจากเกาะเต่า ประมาณ 15 ไมล์ทะเล เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง โดยมีเรือเข้าช่วยเหลือและเอาเครื่องสูบน้ำไปให้การช่วยเหลือ ในเบื้องต้นมีเรือช่วยเหลือ จำนวน 2 ลำ ได้นำผู้โดยสารขึ้นเรือ และ ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี ขอรับการสนับสนุนเรือในอัตราบัญชีกำลัง จำนวน 1 ลำ พร้อมเครื่องสูบน้ำเคลื่นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน
เวลา 09.10 น. เรือเร็วลมพระยา จำนวน 3 ลำ และเรือนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ จำนวน 3 ลำ เข้าให้การช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด ได้ขึ้นเรือที่ให้การช่วยเหลือ จำนวน 102 คน และได้ขึ้นฝั่งที่เกาะเต่าเรียบร้อยและปลอดภัยทุกราย
เวลา 10.10 น. หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือ เรือโดยสารลำดังกล่าว ได้จมลงสู่ทะเล
เวลา 12.20 น. ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี โดยทัพเรือภาคที่2 ได้นำ เรือ ต.112 ถึงจุดเกิดเหตุ และจะทำการเก็บกู้แพช่วยชีวิตกระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยว
ด้าน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน ได้ออกประกาศให้ระมัดระวังในการเดินเรือ เพื่อแจ้งพิกัดตำบลที่และบริเวณข้างเคียง ระยะ 5.5 ไมล์ทะเล จากเกาะเต่า พิกัดที่ ละติจูด 9.9930 ลิปดาเหนือ และลองจิจูด 99.7502 ลิปดาตะวันออก และออกหนังสือห้ามใช้เรือ โดยมีหนังสือถึงเจ้าของเรือ ชื่อ นายไพฑูรย์ คงจันทร์ แจ้งการห้ามใช้เรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 จนกว่าจะดำเนินการเพื่อให้มีสภาพที่เหมาะสมสำหรับ การใช้งานต่อไป
ออกหนังสือ คำสั่งให้กู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จมลง โดยให้จัดทำเครื่องหมายที่แสดงอันตรายให้เป็นที่สังเกตในการเดินเรือผ่านทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และเร่งให้ดำเนินการ กู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จมลง ออกไปให้พันจากบริเวณจุดที่เรือจมดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับคำสั่งนี้ต่อไป