สุดสลดพ่อฆ่าลูกจับมัดหินถ่วงน้ำอำพรางศพ 3 เดือน

2023-12-19 10:40:02

สุดสลดพ่อฆ่าลูกจับมัดหินถ่วงน้ำอำพรางศพ 3 เดือน

Advertisement

สุดสลดพ่อฆ่าลูกจับมัดหินถ่วงน้ำอำพรางศพ 3 เดือนเน่าเปื่อยเหลือแต่โครงกระดูก

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ  เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความระบุว่า พ่อฆ่าลูกถ่วงน้ำอำพรางศพมา 3 เดือน พบศพเน่าเปื่อย  โดยเมื่อเวลา 14.30 น. 18 ธ.ค.66  มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้รับการประสานจาก พ.ต.ต.กฤษณะ เอี่ยมสะอาด สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหาด ขอสนับสนุนทีมประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ค้นหาร่างผู้เสียชีวิต พื้นที่บ้านคลองไทรทอง อ.คลองหาด  ทีมประดาน้ำกู้ภัยอรัญประเทศ ลงค้นหาตั้งแต่เวลา 15.00 น. ถึง 19.50 น. จึงพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย  อายุ 23 ปี สภาพเน่าเปื่อย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือนพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสภาพศพได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาที่รับสารภาพไปดำเนินคดีต่อไป 

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากนายสืบศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี  ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสตำรวจ สภ.คลองหาดว่า  นายพลศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พ่อนายสืบศักดิ์ มึนเมาสุราพูดออกมาว่า ได้ฆ่าลูกชายแล้วนำศพไปทิ้งถ่วงไว้ในสระน้ำ บริเวณข้างบ้านตัวเอง พื้นที่หมู่ 3 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระแก้ว  นักประดาน้ำกู้ภัยอรัญประเทศ มูลนิธิสว่างสระแก้ว จุดคลองหาด เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่องมพิสูจน์ในคลองลำราง อยู่ห่างจากตัวบ้าน ประมาณ 50 เมตร เป็นคลองขนาดกว้าง 6 เมตร ลึก 2 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งเป็นคลองที่ใช้เก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร และพบศพผู้เสียชีวิต สภาพ เน่าเปื่อย เหลือแต่โครงกระดูก 

นายพลศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ประมาณเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ใช้เสียมฟาดไปที่ศีรษะบุตรชายไป 2 ครั้ง เนื่องจากทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรงและโดนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายอยู่เป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุได้ทะเลาะกันอีก แล้วบุตรชายวิ่งปรี่เข้ามาหา ประกอบกับดื่มสุราไปด้วยจึงคว้าเสียบฟาดจนเสียชีวิตและนำร่างยกขึ้นรถสามล้อพ่วงขี่นำศพมายังจุดเกิดเหตุใช้เชือกรัดก้อนหินแล้วจับโยนลงไปในน้ำ

พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาดจึงได้ควบคุมตัวนายพลศักดิ์ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นศพ  


ขอบคุณเพจ มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ